‘ปอ’ ชี้ จำลองเหตุการณ์ตกเรือไม่ตรงกับที่ ‘แซน’ ให้การ บอก ‘แตงโม’ เกาะอยู่กว่า 10 วินาที

‘ปอ’ ชี้ จำลองเหตุการณ์ตกเรือไม่ตรงกับ ‘แซน’ ให้การ บอก ‘แตงโม’ เกาะอยู่กว่า 10 วินาที และตกฝั่งเครื่องยนต์ที่มีใบพัด ด้าน ‘แซน วิศาพัช‘ มอง เป็นแค่ละคร ดูเพื่อความบันเทิง ลั่น เป็นวิศวกรไม่ใช่ทนายไปเรียนให้จบเนติก่อนค่อยมาเล่นบทนี้

วันนี้ (16 ม.ค. 68) นายตนุภัทร เลิศทวี หรือ ปอ ตนุภัทร และ นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน วิศาพัช พร้อมกับ นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือ ทนายตุ๋ย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ นางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา

นายตนุภัทร เปิดเผยว่า ตนเองเห็นด้วยกับการจำลองการตกเรือของนางสาวนิดาที่ทำเพื่อให้ประชาชนคนทั้งประเทศได้เห็นภาพที่ไม่ได้มโน แต่ตนเองมองว่าการจำลองดังกล่าวไม่ตรงกับที่นายวิศาพัชเคยให้การในชั้นศาลไว้ เนื่องจากการตกไม่ได้ตกในลักษณะที่นายวิศาพัชให้การ ซึ่งได้เคยให้การไว้ว่า ตอนนางสาวนิดาตกจากเรือในระหว่างที่ปัสสาวะนั้น ก่อนที่จะพลัดตกเรือนางสาวนิดาได้เกาะเบาะไว้เป็นเวลากว่า 10 วินาที และตกไปที่บริเวณฝั่งเครื่องยนต์ที่มีใบพัด เมื่อตกแล้วขาอาจจะยื่นมาถึงช่วงใบพัด ตนเองจึงเชื่อว่านางสาวนิดาถูกดูดเข้าไปบริเวณดังกล่าว เพราะฉะนั้นการตกจะต้องตกอยู่ข้างๆ เครื่องยนต์ ซึ่งการจำลองเหตุการณ์ตกเรือนั้นผู้ที่เป็นคนจำลองระหว่างที่ตกได้ดีดตัวออกจากเรือประมาณ 45 องศา จึงเชื่อว่าเครื่องยนต์จะไม่ดูด และมองว่าการจำลองดังกล่าวไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จึงรู้สึกขอบคุณผู้จัดการจำลองที่ทำให้เห็นความชัดเจนมากขึ้น แต่ก็อยากถามว่าถ้าจำลองแล้วจำลองไม่เหมือนเหตุการณ์ 100% จะจำลองทำไม แล้วถ้าจะจำลองให้เหมือนถามว่าจะจำลองแบบไหน

นายตนุภัทร เผยต่อว่า จากที่ตนเองได้ไปขอคัดพยานหลักฐานในสำนวนตนเองได้ทราบมาว่าเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจเคยจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้ทิศทางแล้วว่าตอนที่ตกลงไปวัตถุถูกดูดไปทางไหน และมีการเทน้ำสีแดงเพื่อทดสอบว่าน้ำหมุนไปในทางใด นอกจากนี้ยังมีการทดลองในหลายรูปแบบ ซึ่งผลก็ออกมาในลักษณะเดียวกัน การทดสอบก็จะต้องดูในเรื่องของสปีด และเรื่องของช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงด้วย ถึงแม้ตนเองอยากจะให้จำลองให้เหมือนจริง แต่ก็ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย เนื่องจากตนเองก็ได้สูญเสียเพื่อนไปแล้ว ตนเองมองว่าเหมือนเป็นการซ้ำเติมผู้เสียชีวิต ไม่อยากให้ผู้ใดนำการสูญเสียนี้มาเป็นกระแสหรือหาผลประโยชน์

ด้าน ทนายตุ๋ย กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องมาพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่กระทบถึงใคร ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือกระทบไปถึงภาครัฐด้วยหรือไม่ และในทางกฎหมาย ตนเองไม่เคยกังวลใจ เนื่องจากพยานหลักฐานที่มีต้องเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่มีอยู่แล้วไม่ได้สร้างขึ้นมา และจะต้องมีการผ่านหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยผ่านกระบวนการสืบสวนสอบสวนอย่างถูกต้อง แต่เหตุการณ์ในวันนี้ตนเองมองว่าเป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมาใหม่เพื่อพิสูจน์ความจริง แต่ก็ต้องมีความใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นด้วย

นายวิศาพัช กล่าวต่อว่า ตนเองอยากฝากถึง นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติวิทยาศาสตร์ และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่า ก่อนที่จะมาพูดหรือท้าอะไร ควรที่จะปรึกษากับผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญก่อน จะได้ดูเหมือนมีการกลั่นกรองมาแล้ว ส่วนในเรื่องท้าด้วยจำนวนเงินนั้น ตนเองไม่ได้เล่นการพนัน แนะนำให้คนที่ท้าหากชอบการพนันให้ไปสนามมวย

สำหรับการทดสอบในวันนี้ และเมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) เป็นอย่างไรนั้น นายวิศาพัช กล่าวว่า ตนเองมองว่าเป็นการละครเรื่องหนึ่งที่ไว้ดูเป็นความบันเทิงเพราะไม่ได้ใกล้เคียง และไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ตนเองเคยแนะนำไปแล้ว 4 ข้อ เพราะการตกเรือมีรายละเอียดยิบย่อยเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งตนเองไม่กังวลใจในเรื่องของคดี ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ามั่นใจมาก และรอดูว่าจะมีการเปิดหลักฐานอะไรออกมาอีก และจะใช้ข้อวิชาการหลักวิทยาศาสตร์ข้อใดมาสนับสนุนให้กับสิ่งที่เขากำลังทำ และจะมีเนื้อหาสาระสำคัญอะไรพอที่จะเปลี่ยนสำนวนคดีได้

“เขาเป็นวิศวกรไม่ได้เป็นทนายความ จึงไม่ทราบข้อกฎหมาย จะเอาอะไรมาดึงเข้าสำนวนไม่ได้ ต้องเรียนให้จบเนติก่อน ค่อยมาเล่นบทนี้” นายวิศาพัช กล่าว

นายวิศาพัช กล่าวต่อว่า ตนเองไม่ทราบว่าจุดประสงค์หลักของการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไร แต่ก็ทำให้ตนเองโดนทำลายชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่ขณะนี้ตนเองยังไม่ตัดสินใจจะฟ้องร้องใครแต่อย่างใด เพราะตนเองขออโหสิกรรมให้ เผื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้หมดสิ้นไปบ้าง และอยากให้ประชาชนพิจารณาดูว่า สิ่งที่ผู้จัดทำมีเจตนาหาข้อเท็จจริงหรือไม่ หรือหาประโยชน์ใดๆ ให้กับใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่อยากให้ประชาชนได้ยินแล้วมาด่า

นายวิศาพัช กล่าวว่า อยากให้เสพข่าวอย่างมีสติ ก่อนที่เราจะไปด่าคนอื่น เราต้องเสพข่าวอย่างมีสติ และคิดอย่างหลายมุม ไม่ใช่มุมเราคนเดียวหรือมุมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คิดถึงหลักข้อเท็จจริงนะคะ ถ้าไม่อย่างนั้นประเทศเราจะเป็นประเทศขวัญใจแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้ถ้าเราไม่คิดกัน

ปอ ตนุภัทร กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่แม่ของนางสาวนิดาออกมาเปิดเผยว่ายังโกรธคนบนเรืออยู่นั้น เรื่องนี้จะต้องไปสอบถามกับตัวคุณแม่เอง แต่ตนเองยืนยันว่าตนเองยังรักคุณแม่เหมือนเดิม เพราะที่ผ่านมาก็มีการพูดคุย และอัพเดทข้อมูลกับคุณแม่อยู่ตลอด ตนเองยังมองว่าคุณแม่เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักสำหรับตนเอง แต่ในเหตุการณ์วันนี้ตนเองยังไม่ได้มีการสอบถามหรือพูดคุยกับคุณแม่แต่อย่างใด