CRIME

‘อัจฉริยะ’ แฉยับ หลัง แม่แตงโม-ส.ส.เต้ ถอนมอบอำนาจฟ้องคดี ชี้ เป็นเกมหักหลัง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (15 มิ.ย. 65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงกรณีที่ นางภนิดา ศิรยุทธโยธิน แม่แตงโม มีหนังสือยกเลิกการมอบอำนาจดำเนินคดีและการแต่งตั้งทนายความของนายอัจฉริยะ และทีมทนายความของนายอัจฉริยะ หลังนายอัจฉริยะยื่นฟ้องต่อศาลคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288-289 ฐานกระทำโดยเจตนาให้ผู้อื่นถูกฆ่า ถึงแก่ความตาย โดยแม่แตงโมไม่เห็นชอบว่า เมื่อวานนี้สิ่งที่แม่ และ ส.ส.เต้ แถลง ไม่ใช่เรื่องจริง ที่อ้างว่าหนังสือดังกล่าวลงวันที่ 14 มิ.ย.ช่วง 17.00 น. และได้ส่งไปที่ศาลไม่มีการลงลายมือชื่อแม่แตงโม มีเพียงตราประทับของพรรคไทยศรีวิไลย์
และเป็นการส่งเอกสารไปโดนมิชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีการแจ้งให้ตนเองได้ทราบล่วงหน้า

เพราะตนเองได้แจ้ง ส.ส.เต้ ในเวลา 15.00 น.ว่าได้เดินทางมาฟ้องที่ศาลจังหวัดนนทบุรี และได้พูดคุยกับนายบุญถาวร ทนายความว่าได้เดินทางมาฟ้องแล้ว ซึ่งตนเองไม่เคยได้รับแจ้งว่ามีการยกเลิกหนังสือมอบอำนาจจากแม่แตงโม ดังนั้นหากจะบอกว่าทวงหนังสือคงไม่ใช่และศาลก็ได้มีการประทับรับฟ้อง และนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดวันที่ 22 ส.ค.ส่วนการไต่สวนถอนทนายที่แม่แตงโม ได้ยื่นต่อศาลจะนัดไต่สวน 20 ก.ค.

ซึ่งยืนยันว่าการที่ตนเองฟ้องครั้งนี้ไม่ได้เป็นการลักไก่ หรือฟ้องลับหลัง เพราะได้ให้แม่แตงโม ดูหลักฐานแล้วถึง 2 ครั้ง และตนเองได้พูดคุยกับ ส.ส.เต้ มาตลอด ซึ่งการที่จะให้ตนเองไปเดินตามบังแจ็ค และไปเชื่อหลักฐานดังกล่าวนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีมูลโดยจากการได้ดูหลักฐานจากโทรศัพท์แม่แตงโมก็เชื่อว่าไม่มีอะไรที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในคดีนี้ได้ รวมถึงบังแจ็คเป็นบุคคลที่ศาลออกหมายจับแล้ว

ทั้งนี้ตนเองไม่ได้ขัดใจอะไรแม่ เมื่อแม่มีความต้องการฟ้อง ม.290 แต่ไม่ประสงค์ให้แม่เบิกความนั้นตนเองได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของแม่ ทุกอย่างแล้ว ไม่ได้มีอะไรที่ผิดข้อตกลง และหลักฐานของตนเอง เป็นหลักฐานที่มีหน่วยงานรองรับ และมีนิติวิทยาศาสตร์รองรับ โดยได้ดำเนินการฟ้องทั้งหมดรวม 8 มาตรา และหากมีการไต่สวนเชื่อว่าศาลจะประทับรับฟ้อง เพราะมีมูลอย่างแน่นอน แต่จะเข้าข่ายกี่มาตราขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล โดยคำห้องของตนเองผู้ที่จะมาสืบพยาน จะเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด

และในวันนี้ นายอัจฉริยะกล่าวว่าจะเปิดหลักฐานให้ดูถึงเกมหักหลังทุกรูปแบบ ที่ตนเองไม่สามารถรับในสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านั้นปฏิบัติได้ และหลักฐานชิ้นนี้จะแสดงให้เห็นว่า ทำไมถึงมีการยกเลิกการมอบอำนาจให้ตนเองดำเนินการ รวมถึงจะเปิดหลักฐานที่พยายามมีการเสนอเงินให้ โดยอ้างว่า คุณแม่จะมอบเงินให้กับชมรม

ทั้งนี้ขอย้ำว่า สิ่งที่ตนเองทำมาตลอด 3 เดือน ไม่ได้ต้องการเงิน เนื่องจากตนเองจ่ายเงินไปเองแล้วมากกว่า 5 แสนบาท ทั้งค่าทนายความและค่านักประดาน้ำ ทั้งนี้หากต้องการเงินจริงก็ต้องรับเงินตั้งแต่การทำคดีนี้ เพราะมีคนเสนอมาก่อนแล้ว และการทำคดีนี้ ถือเป็นคดีที่มีความอัปยศที่สุดในประเทศไทย หากมีคนในประเทศที่ถูกทำเช่นนี้ อำนาจรัฐที่บิดเบือนข้อเท็จจริงแล้วสังคมอยู่อย่างไร

นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกด้วยว่าคนกลุ่มนี้ มีการพยายามที่จะเปลี่ยนตนเองออก เนื่องจากไม่สามารถควบคุมตนเองได้แล้ว และก่อนหน้านี้ 4 วัน ฝั่งของ ส.ส.เต้ ได้ไปดูข้อมูลของตนเองที่เซฟเฮ้าส์ ทำให้รู้ว่าเขาต้องการทำอะไรกับตนเอง และหากตนเองยังอยู่ อะไรที่เขาคิดกันไว้คงไม่ได้ตามที่ต้องการ เมื่อเห็นไพ่ของตนเองบางส่วนแล้ว แต่ยืนยันว่าสิ่งที่เห็นเป็นเพียง 10% เท่านั้น

ทั้งนี้ตนเองมองว่าเป็นเหมือนเกมการต่อรอง แล้วเอาตนเองเข้าไปเป็นเหยื่อก็ได้ เพราะมีการทำเป็นรูปแบบ และเขาคิดว่าเขาเป็นผู้บงการโดยมีทุกคนเป็นเหยื่อ เขาคิดว่าเขาถือไพ่แต้มต่อ และทุกคนต้องให้เขาอนุมัติคนเดียว แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับคนที่เข้ามาทำคดีนี้ด้วยความสุจริต

ดังนั้นการจะแก้ในสิ่งที่ตนเองทำหลังศาลประทับฟ้องแล้ว ไม่สามารถทำได้โดยง่าย และหากมีการถอนฟ้อง มาตราที่ตนเองฟ้องไปแล้ว จะฟ้องอีกไม่ได้ ซึ่งถือเป็นการฟ้องซ้ำ

นายอัจฉริยะ ยังยืนยันว่าตนเองมีหลักฐานทั้งหมด และส.ส.เต้ ไม่ได้หลักฐานไปทั้งหมด เพราะตนเองเก็บไว้และรู้อยู่แล้วว่าต้องมาวันนี้ และไม่กังวลหากถูกฟ้องกลับ เพราะเชื่อว่าคนบนเรือจะไม่ฟ้อง เพราะตนเองมีหลักฐานพร้อมที่จะสู้อยู่แล้ว โดยหลักฐานดังกล่าวที่จะใช้สู้คดี ได้ส่งให้กับศาลไปทั้งหมดแล้ว เป็นหลักฐานที่อยู่บนเรือ และไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แต่จะเปิดเผยที่ชั้นศาลเท่านั้น

ส่วนกรณีประเด็นที่ ส.ส.เต้ ให้คืนเอกสารทั้งหมดในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโมภายใน 7 วันนั้นมองว่า เป็นแค่การขู่ และไม่จำเป็นต้องคืน เพราะเอกสารหลักฐานหลายส่วนใหญ่เป็นของตนเอง ซึ่งหากตนเองไม่คืนแล้วจะดำเนินคดีนั้น เดี๋ยวจะรู้ว่าใครจะถูกดำเนินคดีกันแน่และวันนี้ยืนยันว่า ไม่ใช่การแลกหมัด แต่ตนเองมีแต้มต่อ

ทั้งนี้กรณีที่แม่มีการแต่งตั้งทนายเองแล้วจะมาถอนโดยที่ไม่มีความผิด หากจะใช้ทนายคนอื่น ก็สามารถร้องมารยาททนายความได้ทันทีเช่นกัน และการทำเช่นนี้นอกจากเป็นการผิดมรรยาทแล้ว ยังเป็นการหลอกลวงประชาชน เรื่องการถอนหนังสือมอบอำนาจด้วย ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องตนเองยังไม่ได้คุยกับ แม่แตงโม และ ส.ส.เต้ มีแต่ ส.ส.เต้ มาทวงเงิน ค่าวางศาลจำนวนกว่า 2 แสนบาท ซึ่งตนเองได้คืนเงินไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพราะเขาต้องการให้ตนเองฟ้องคนบนเรือ 100
ล้านบาท

นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่าเกมนี้ไม่ใช่การเดินเกมผิด แต่เป็นการเดินเกมที่โง่ ซึ่งตนเองพูดมาตลอดว่าต้องรักษาคำพูด เมื่อมาเป็นที่ปรึกษา และมาเป็นทนายความก็ต้องแบ่งหน้าที่ชัดเจน โดย ส.ส.เต้และภรรยา ดูแลแม่ ตนเอง ดูเรื่องคดีความ ซึ่งมีหัวใจสำคัญคือให้แตงโมได้รับความยุติธรรม

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat