CRIME

รองเต่า เผย ภรรยาศรี ’สุวรรณ‘ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพรุ่งนี้

มั่นใจ พยานหลักฐานเอาผิดเป็นตัวการร่วมขบวนการตบทรัพย์ เชื่อ มีตัวการใหญ่คอยชักใย – วางแผน ด้าน บัญชีม้า ย่องเงียบเข้าให้ปากคำ

วันนี้ (14 ก.พ. 67) เวลา 12:00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ภายหลังเจ้าหน้าที่เขตตรวจราชการที่ 11 สำนักนายกรัฐมนตรี 2 คน เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ บก.ปปป. เกี่ยวกับเรื่องขอบเขตอำนาจหน้าที่ และคำสั่งต่างๆ ของนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เมื่อวานนี้ (13 ก.พ. 67) ระบุว่า ได้มีการสอบปากคำ และนำเข้าสำนวนคดีแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ยังเหลือเจ้าหน้าที่เขตตรวจราชการฯ ส่วนอีก 2 คน ที่จะมาให้การในวันหลัง

ส่วนการที่เจ้าหน้าที่เขตตรวจราชการที่ 11 ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องคำสั่งที่มีการแต่งตั้งนายยศวริศ เนื่องจากมีคำสั่งถูกย้ายออกออกไปอยู่เขตอื่นก่อนนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มองว่า การสับเปลี่ยนโยกย้ายของเจ้าหน้าที่น่าจะจริง แต่ประเด็นการสอบเกี่ยวกับการเป็นเจ้าหน้าที่ของนายยศวริศ เราจะต้องมีการสอบเพิ่ม และเรียกเจ้าหน้าที่จากหน่วยอื่นๆ ในสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาสอบปากคำเพื่อใช้ในการประกอบคดี

สำหรับภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่มีการออกหมายเรียก เพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา จะเดินทางมาในวันพรุ่งนี้ โดยจะนัดสอบปากคำประเด็นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวการร่วม ซึ่งตำรวจมีหลักฐานเป็นแชตไลน์ วิดีโอ คลิปเสียง และอื่นๆ ครบทุกอย่าง ซึ่งเมื่อพนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อกล่าวหา ก็จะให้ปล่อยตัวชั่วคราว ก็ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้

ขณะที่กรณีนายศรีสุวรรณ ได้จัดทำเอกสารชี้แจงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และนัดส่งแก่พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ในวันที่ 16 ก.พ. นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากนายศรีสุวรรณว่าจะมีการเลื่อนหรือไม่ ส่วนประเด็นที่จะต้องสอบเพิ่มมีอีกหลายประเด็น ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาจะมาเอง หรือส่งตัวแทนมายื่นหนังสือชี้แจงหรือไม่ แต่ตอนนี้ยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการเลื่อนส่งคำชี้แจง แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องเรียกนายศรีสุวรรณมาพบอยู่ดี เพราะมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องเรียกมาสอบเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะมีการออกหมายเรียกใครที่เกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จริงๆ เรากำลังหาคนที่เกี่ยวข้อง เช่น การที่เราเรียกนายโอวาท ข้าราชการที่ถูกระบุว่า เป็นผู้ส่งข้อมูลการทุจริตโครงการในกระทรวงฯ ให้กับนายเอกลักษณ์นั้น เข้ามาให้ปากคำ ซึ่งเมื่อเราดูแชตไลน์ส่วนตัว ในการพูดคุยเรื่องต่างๆ แล้ว เราก็เห็นว่ายังไม่มีแนวโน้มไปในทางที่ให้ข้อมูลอะไร และตนเองได้พูดคุยกับนายอัจฉริยะไปส่วนหนึ่งแล้ว ว่าดูแล้วอาจจะไม่เกี่ยวข้อง ส่วนนาย ก. ได้ให้พนักงานสอบสวนเรียกไปแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าให้การอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในข้อสรุปของกลุ่มผู้ต้องหาในคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ว่ามีคนที่อยู่เบื้องหลังที่ใหญ่กว่านี้หรือไม่ รอง ผบช.ก. ตอบว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน เราคิดว่ามีคนที่คอยชักใย วางแผนอยู่ ซึ่งเรามองเห็น แต่มันบางๆ

ส่วนกรณีวงความเสียหายที่ 2 (กระทรวงยุติธรรม) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เรากำลังตั้งเรื่อง และทำรายละเอียด ถ้าพร้อมผู้เสียหาย ก็จะเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ทันที ส่วนใครจะเป็นผู้เข้ามาแจ้งความนั้น มองว่า นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็อยากจะเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี เพราะเขาคิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกัน

สำหรับประเด็นที่จะมีการประชุมร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในวันพรุ่งนี้นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า มีหลายเรื่องที่จะต้องพูดคุย และมีรายละเอียดในทางคดีอีกหลายอย่างที่จะต้องมานั่งถกกัน ส่วนความเป็นไปได้ในการอายัดทรัพย์ขบวนการตบทรัพย์นั้น เราดำเนินคดี และตรวจทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน เพราะเราอยากให้กรณีนี้เป็นแผนประทุษกรรมของอีกหลายเคสที่เกิดขึ้น ซึ่งเราจะทำให้ละเอียด และมีประโยชน์ต่อเคสต่างๆ ที่เราจะทำต่อด้วย

ส่วนกรณีของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน ที่ได้เข้ามาให้ข้อมูลขบวนการตบทรัพย์ และกล่าวถึง นาย ว. ว่าตกเป็นเครื่องมือของนาย อ. จะยังจำเป็นต้องเรียกเข้ามาหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า นาย ว. จะเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวน ปปป. อยู่แล้ว แต่เราต้องการที่จะรักษาความลับในสำนวน เพราะการได้ข้อมูลจากนายเสกสกล เรามองว่าเป็นแผนประทุษกรรมเดียวกัน และพยายามสืบสวนหาข้อมูล และมีความใกล้เคียงกัน แต่ตัวละคนอาจจะไม่ครบองค์ประกอบเท่ากรณีนี้ ซึ่งจะต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. อยู่ระหว่างการสอบปากคำบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ว่าการให้ปากคำเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่ เพราะมีอีกหลายเรื่องที่เราอยากรู้ข้อมูลความลับเกี่ยวกับกลุ่มนี้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า บัญชีม้าที่เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. คือนาย น. ซึ่งเป็นเพื่อนของการ์ตูน พิมณัฏฐา หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการตบทรัพย์ ซึ่ง น.ส.พิมณัฏฐา ได้มีการขอให้โอนเงินเข้าบัญชีของนาย น. ก่อนขอให้โอนคืน ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ทางพนักงานสอบสวน เปิดเผยสั้นๆ ว่าจะต้องนำผลการสอบสวน เข้าเสนอต่อที่ประชุมของคณะกรรมการฯ เพื่อจะพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่

Related Posts

Send this to a friend