นครบาล เตรียมกวาดล้างรถกู้ชีพเถื่อนทั่ว กทม.
พร้อมระดมสายตรวจเฝ้าระวังศึกเอาคืนระหว่างมูลนิธิ
ตำรวจนครบาล เตรียมกวาดล้างรถกู้ชีพเถื่อนทั่วกรุงเทพมหานคร พร้อมกำชับให้สายตรวจระดมตรวจสอบรถกู้ชีพทุกคันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันการพกพาอาวุธและการเตรียมก่อเหตุทะเลาะวิวาทเพื่อเอาคืนกัน ส่วนคดีความ อยู่ระหว่างตรวจสอบพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ก่อเหตุ เตรียมเรียกมูลนิธิคู่กรณีมาหาแนวทางการทำงาน ไม่ให้ทับซ้อนจนเกิดปัญหาซ้ำอีก
พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.โคกคราม ถึงขั้นใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงกันมากกว่า 20 นัด ตำรวจอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุว่ามีกี่คน มาจากมูลนิธิไหนบ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าคดีที่เกิดขึ้นทั้ง 2 สน. ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน แต่เป็นลักษณะการเกิดเหตุทะเลาะวิวาทในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนจะมีการแจ้งความกันไปมาว่า ต่างฝ่ายต่างมีการทะเลาะวิวาท ทำร้ายกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงเกิดเหตุขึ้นที่ สน.โคกคราม โดยพบว่าผู้ที่ถูกกระหน่ำยิงใส่ คือกลุ่มเดียวกันกับที่อยู่ในเหตุการณ์แยกพงษ์เพชร พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง
กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เก็บปลอกกระสุนไปตรวจสอบ และตรวจสอบในฐานข้อมูลเอกลักษณ์เฉพาะอาวุธปืน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมกับไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณโดยรอบ และเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายใช้หลบหนี เพื่อระบุตัวบุคคลให้ชัดเจน ก่อนจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ
พลตำรวจตรี จิรสันต์ เพิ่มเติมว่า จากนี้จะมีการหารือถึงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งกันในลักษณะนี้ขึ้นอีก รวมถึงการแบ่งเขตพื้นที่และช่วงเวลาออกทำการ ซึ่งก่อนหน้านี้ มี 2 มูลนิธิคือ มูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แต่เมื่อมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ ก็จำเป็นต้องหารือให้การทำงานไม่คาบเกี่ยวทับซ้อนกันจนเป็นปัญหา โดยได้กำชับให้แต่ละมูลนิธิตรวจสอบการทำงานของรถกู้ชีพแต่ละคันว่ามีลักษณะที่ผิดกฎหมาย มีอาวุธหรือไม่ ให้แต่ละมูลนิธิดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากมีการกระทำความผิด
พลตำรวจตรี จิรสันต์ ยังกำชับให้สายตรวจแต่ละพื้นที่ ไปตรวจสอบรถกู้ชีพแต่ละคันว่ามีการพกพาอาวุธหรือไม่ หรืออาจเป็นรูปแบบของการระดมกวาดล้างอาวุธปืนบนรถกู้ชีพและรถเถื่อน โดยยอมรับว่า ปัจจุบันมีรถกู้ชีพเถื่อนวิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเร่งตรวจสอบให้หมดทุกคัน
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่ามูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ ไม่ได้รับอนุญาตให้นำรถเข้ามาให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ พลตำรวจตรี จิรสันต์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีกฎหมายบังคับตายตัวว่า ต้องมีการขออนุญาตก่อน โดยรถกู้ชีพที่ออกมาให้บริการทุกคัน จะมีการอนุญาตเป็นรายคัน ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่สามารถออกให้บริการได้