CRIME

รอง ผบช.สตม. เผย ’ชาวอุยกูร์‘ ยืนยันไม่ขอกลับจีน

‘พล.ต.ต.พันธนะ’ รอง ผบช.สตม. เผย ’ชาวอุยกูร์‘ ยืนยันไม่ขอกลับประเทศจีน ส่วนอำนาจการอพยพไปประเทศที่ 3 อยู่ในอำนาจของ ’สมช.’ ย้ำชัด ‘สตม.’ มีการดูแลเรื่องสุขภาพเป็นอย่างดี

วันนี้ (13 มี.ค. 67) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ปัญหา หลังมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน องค์กรระหว่างประเทศ และภาคประชาสังคม เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับการตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน หรือปล่อยตัวชาวอุยกูร์ทั้งหมด และให้ลี้ภัยไปยังประเทศที่ 3 เพื่อให้ชาวอุยกูร์ได้พบกับครอบครัวอีกครั้ง

ชาวอุย์กูร์ ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน มีประชากรอยู่ราว 10 ล้านคน โดยเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2557 ขณะเดินทางลี้ภัยเพื่อไปประเทศที่ 3 ผ่าน จ.สงขลา ประเทศไทย เจ้าหน้าที่หน่วยตรวจคนเข้าเมืองไทยได้ตรวจพบ และจับกุมได้ทั้งหมด 220 คน ไปยังสถานกักกัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวนพลู

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า ชาวอุยกูร์อยู่ภายใต้การดูแลของ สตม. ทั้งหมดประมาณ 40 คน โดยยืนยันจากเอกสารว่าเป็นคนจีน และชาวอุยกูร์ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ สตม. ว่าจะไม่ขอกลับไปยังประเทศต้นทางหรือประเทศจีน จึงเป็นเหตุผลที่ปัจจุบันชาวอุยกูร์ยังอยู่ภายใต้การดูแลของ สตม. อยู่ โดยหน้าที่การส่งชาวต่างชาติ ด้าน สตม. จะเป็นผู้ดำเนินการในกรณีที่มีชาวต่างชาติถูกดำเนินคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง แต่ในกรณีที่จะดำเนินการให้ชาวต่างชาติเดินทางไปลี้ภัยประเทศที่ 3 เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวเพิ่มว่าส่วนกรณีเมื่อปีที่แล้วมีชาวอุยกูร์เสียชีวิตขณะที่อยู่ในการดูแลของ สตม. มีสาเหตุการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่อีก 1 รายจำไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร โดยหลังพบอาการเจ็บป่วยนั้น มีขั้นตอนและเวลาในการจัดส่งผู้ป่วยส่งไปยังแพทย์ 30 นาที ทั้งมีเอกสารทางการแพทย์ระบุไว้ชัดเจนว่ามีการเจ็บป่วยจริง โดยในช่วงเกิดเหตุห้องของ สตม. สามารถรองรับได้ประมาณ 2,000 คน ซึ่งบางช่วงมีปัญหาในการส่งกลับ เช่น กรณีส่งกลับช่วงโควิด ก็มีปัญหาในการส่งกลับ เนื่องจากประเทศต้นทางกลัวมีปัญหาเรื่องการแพร่กระจายของเชื้อโรค จึงเป็นเหตุผลทำให้พื้นที่ไม่เพียงพอ แต่ปัจจุบันมีชาวต่างชาติที่อยู่ภายใต้การดูแลของ สตม. ทั้งหมดประมาณ 1,000 กว่าคน ซึ่งสามารถรองรับได้เพียงพอ

อีกทั้งเรื่องการดูแลสุขอนามัย พล.ต.ต.พันธนะ มั่นใจว่ามีมาตรฐานที่คิดว่าดี มีการตรวจร่างกายทุกคนเพื่อดูแลทุกคนให้ดีที่สุด และปัจจุบันชาวอุยกูร์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ สตม. ได้รับความร่วมมือแพทย์มาตรวจสุขภาพ ทั้งร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรี และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน มาดูแลชาวอุยกูร์ ตามนโยบายสำนักงานตำรวจและแห่งชาติ และรัฐบาล

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat