‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ชี้ แก๊งค์หลอกเด็ก 15 ผูกคอเสียชีวิต เชื่อมโยงคอลเซ็นเตอร์ “ปอยเปต”
‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ชี้ แก๊งค์หลอกเด็ก 15 ผูกคอเสียชีวิต เชื่อมโยงคอลเซ็นเตอร์ “ปอยเปต” เร่งประสานตำรวจกัมพูชาจับกุมทั้งขบวนการ เตือนร้านรับแลกบิทคอยน์ ตรวจสอบเงินก่อนรับแลก อาจถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน
วันนี้ (12 ม.ค. 66) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ที่มีมิจฉาชีพหลอกให้เยาวชนอายุ 15 ปี ให้ลงทุน จนทำให้เยาวชนรายดังกล่าวคิดสั้น ผูกคอเสียชีวิต โดยต่อมาเมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบความเชื่อมโยงถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้แบ่งการดำเนินงานกันเมื่อวานนี้ ทั้งในส่วนของกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 ฝ่ายสืบสวน โดยตอนนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว ทั้งหมด 5 ราย จากการออกหมายจับไป 8 คน ซึ่งมีพฤติการณ์คือการนำเงินไปหลอกลวง และนำออกนอกประเทศไปประเทศกัมพูชา ผ่านทางเงินคริปโต
โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทราบแหล่งของขบวนการที่สำคัญ อยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เฉพาะการทำผิดในกลุ่มนี้ ส่วนผู้เสียหายที่ได้มีการจับกุมคือเป็นคนไทยที่ขายบัญชีตนเองเพื่อที่จะให้ขบวนการของคนจีนที่อยู่ในกัมพูชาใช้บัญชีในการโอนเงิน วันนี้จึงต้องฝากเตือนประชาชนว่า ถ้าใครใช้บัญชีม้าหรือขายบัญชีตนเองให้กับหลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ว่าจะขายเท่าไหร่ ก็จะต้องรับโทษเท่ากัน ดังนั้นวันนี้ที่ออกหมายจับไป 8-9 หมายจะมีการจับกุมทั้งหมดและไล่ต่อไปจนถึงขบวนการที่อยู่ในกัมพูชาด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของกัมพูชานั้น ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าจุดโอนเงินอยู่ตรวจุดใด เบื้องต้นคืออยู่ที่ปอยเปต และทราบพิกัดของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวแล้ว ซึ่งเมื่อวานได้โทรประสานกับ ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร.ของกัมพูชาแล้ว ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันทั้งสองประเทศ ในส่วนการดำเนินการฝั่งไทยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด รวมทั้งร้านรับแลกบิทคอยน์ จะต้องตรวจสอบทั้งหมดว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ หากเกี่ยวข้อง ต้องถูกดำเนินคดีด้วย จึงอยากฝากไปยังร้านที่รับแลกบิทคอยน์ว่า ขอให้ตรวจสอบว่าเงินที่นำมาแลกนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็นเงินที่ไม่ถูกต้องอาจจะได้รับโทษในความผิดอาญาฐานฟอกเงินด้วย