CRIME

น้องสาว – แฟน อดีต ผกก.โจ้ ยื่น DSI ขอให้สอบ ปมถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย – เสียชีวิต ในเรือนจำ

น้องสาว – แฟน อดีต ผกก.โจ้ ยื่นหนังสือ DSI พร้อมให้ข้อเท็จจริง ขอให้สอบ ปมถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย – เสียชีวิต ในเรือนจำ ด้าน แฟนสาว เผย มั่นใจในการทำงานของตำรวจ แต่จะทำทุกทางเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ชี้ เรื่องในเรือนจำเป็นแดนสนธยา หลัง ‘ราชทัณฑ์’ ชี้แจงอ้างเหตุผล เชื่อ เจ้าตัวถูกกดดัน ยัน เอาเรื่องผู้คุมถึงที่สุด

วันนี้ (11 มี.ค. 68) เวลา 10:00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) น.ส.ธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ และ น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ แฟนสาว อดีต ผกก.โจ้ รวมถึงนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความส่วนตัว เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ พร้อมให้ข้อมูล ในฐานะเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริง กรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ (พ.ร.บ.อุ้มหายฯ) เพื่อขอให้ตรวจสอบการถูกทำร้ายร่างกายจากผู้คุมภายในเรือนจำกลางคลองเปรม ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ ซึ่งมีใบรับรองแพทย์การตรวจร่างกายว่ามีรอยจากการถูกทำร้ายจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เปิดเผยภายหลังการรับหนังสือว่า วันนี้ญาติของผู้เสียชีวิต แม่ แฟน และน้องสาว มายื่นเอกสารเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ซึ่งทางดีเอสไอรับไว้ตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ อย่างไร แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดที่มีการพูดคุยกัน แต่มีการให้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์

ส่วนจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น วันนี้จะต้องทำการตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน โดยเฉพาะตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่พึ่งจะได้ข้อเท็จจริงจากญาติผู้เสียชีวิต โดยจะต้องตรวจสอบดูก่อนว่าจะมีผลเป็นอย่างไร จึงจะพิจารณาได้ว่าจะเข้าข่ายการรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

อีกทั้ง ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ก็มีการเขียนหลักการไว้เยอะ โดยจะมีหน่วยงานทั้ง อัยการ ฝ่ายปกครอง ดีเอสไอ ตำรวจ มีทั้ง 4 หน่วยในการเข้าตรวจสอบ โดยประเด็นนี้ก็จะร่วมทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานอื่น ส่วนจะใช้เวลานานหรือไม่นั้น ก็จะต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนเช่นกัน

ขณะที่ น.ส.สิภชา ระบุว่า วันนี้ได้มาบอกเล่าข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกับดีเอสไอ ที่นอกเหนือจากเอกสารที่เคยยื่นไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และทวงความยุติธรรมคืนให้กับอดีต ผกก.โจ้ พร้อมยืนยันว่า การมาในวันนี้ ไม่ใช่ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจ แต่อย่างที่เคยบอกไปในฐานะคนในครอบครัว ตนอยากจะช่วยให้ถึงที่สุด อะไรที่ครอบครัวสามารถทำได้ ก็อยากจะทำ และอยากให้หลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ

น.ส.สิภชา กล่าวอีกว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง อยากให้เน้นไปที่เรื่องของสาเหตุการเสียชีวิต และการที่อดีต ผกก.โจ้ถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้ง ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ได้รับความเป็นธรรมก่อนหน้านี้ตามที่ครอบครัวเคยร้องเรียนไป และยืนยันว่า ทางครอบครัวมีหลักฐาน แต่ขอไม่เปิดเผย

“พี่โจ้เขาทุกข์อยู่แล้ว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เขาถูกกลั่นแกล้งรังแก มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย คนเราไม่ได้ทำผิด แต่เอาไปขังอยู่ในนั้น ถูกตัดอาหาร มันทุกข์มาก” น.ส.สิภชา

เมื่อถามถึงเอกสารที่ทางราชทัณฑ์เผยแพร่ชี้แจงข้อเท็จจริง 6 ข้อ ทางครอบครัวได้เห็นแล้วหรือไม่นั้น น.ส.สิภชา กล่าวว่า “ข้างในเรือนจำเป็นแดนสนธยา เขาสามารถที่จะพูดหรือทำอะไรก็ได้ แต่เรื่องข้างนอก พี่โจ้ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะถูกทำร้ายร่างกาย และกลั่นแกล้งจากผู้คุมจริงๆ เป็นผู้คุมคนเดียว ซึ่งความต้องการของทางครอบครัว ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า อยากให้ย้ายผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมในปัจจุบัน และผู้คุมคู่กรณีให้ออกจากเรือนจำไปก่อน เพราะกลัวมีปัญหาเรื่องการสืบพยาน และกังวลว่าหากพวกเขายังอยู่จะสามารถพูดหรือทำอะไรก็ได้เพื่อขัดขวางการสอบสวนหรือปกปิดข้อเท็จจริง“

อีกทั้ง ที่ผ่านมาทางครอบครัว ยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหาอะไร แม้จะมีการเปลี่ยนผู้บัญชาการเรือนจำอยู่หลายครั้ง แต่ผู้บัญชาการเรือนจำคนปัจจุบัน และคนก่อนหน้านี้ ทางครอบครัวเคยยื่นเอกสารร้องเรียนไปทั้งสิ้น 4 ฉบับ แต่ก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้เลย

ส่วนในวันเกิดเหตุ ยอมรับว่า มีรายชื่อตน และเพื่อนๆ ของอดีต ผกก.โจ้ ไปเยี่ยมตามปกติ ซึ่งเป็นรายชื่อที่มีสิทธิเข้าเยี่ยมได้ 10 รายชื่อ ส่วนใหญ่ก็เป็นการพูดคุยเข้าไปให้กำลังใจเขา ถามสารทุกข์สุกดิบเป็นปกติ แต่ในส่วน 10 รายชื่อมีใครบ้าง ตนจำไม่ได้

ส่วนเรื่องการกินยาปรับสารเคมีในสมอง ที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า น.ส.สิภชา ยืนยันว่า อดีต ผกก.โจ้ไม่เคยกินยาชนิดนี้ ยาที่เจ้าตัวกินเป็นเพียงยานอนหลับ ไม่ใช่ยาที่ทำให้สมองผิดปกติ

ขณะที่ น.ส.ธนัญญา ยืนยันว่า ไม่เคยเอาผ้าขนหนูเข้าไปให้พี่ชาย เพราะปกติของข้างนอกเราไม่สามารถเอาเข้าไปได้อยู่แล้ว มีเพียงการฝากเงินเอาไว้ ถ้าหากเขาอยากซื้ออะไร มันจะหักกับบัญชีบัตรของเขา ซึ่งเป็นการซื้อของตามรายการที่เขาสามารถซื้อได้ ทางข้างนอกเราเองก็ไม่ทราบว่าเขาจะเอาไปซื้ออะไรบ้าง

ด้านนายวีรศักดิ์ กล่าวถึงเรื่องการชันสูตรพลิกศพรอบ 2 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า ยังรอผลการตรวจพิสูจน์อยู่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ถึงจะแจ้งชี้แจงมาอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้ให้น้ำหนักอะไร เพราะอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และการตรวจนิติเวช ซึ่งในกรณีผ้าขนหนูนั้น ขอยังไม่ให้ความเห็น เพราะไม่ได้เห็น หลักฐานอยู่กับทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน รอให้เขาแจ้งมาดีกว่า

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat