CRIME

’ทวี‘ รับทราบกรณี DSI แจ้งข้อกล่าวหา ‘อดีตรัฐมนตรี’

สมคบขบวนการค้ามนุษย์ในฟินแลนด์ เผยตำรวจพบเส้นทางการเงิน

วันนี้ (11 ม.ค. 67) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับอดีตข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับรัฐมนตรี 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน อีก 2 คน รวม 4 คน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการส่งแรงงานไทยเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในสาธารณรัฐฟินแลนด์

พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจากการประชุมร่วมกับแรงงานจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีกลุ่มแรงงานจำนวนมากที่ไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์ในสภาพอากาศหนาวเย็น แต่กลับถูกลอยแพ และไม่ได้รับค่าจ้างตามที่กำหนด ซึ่งทางตำรวจฟินแลนด์ได้สอบสวนกรณีดังกล่าว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งพบเส้นทางการเงินที่โอนไปยังผู้ต้องหา และมองว่าเป็นการค้ามนุษย์ และเนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ทำให้อัยการสูงสุดมีอำนาจในการสอบสวน ก่อนจะส่งเรื่องดังกล่าวให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนร่วมด้วย แต่บุคคลที่ถูกกล่าวหาจะหมายถึงใครบ้างนั้นคงต้องให้สอบถามกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ

สำหรับกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีการค้ามนุษย์ ได้ทำการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่ 81/2566 หลังได้รับหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องแรงงานไทยที่ไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในสาธารณรัฐฟินแลนด์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในการเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 โดยจากการสอบสวนร่วมกันระหว่างคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด และพยานหลักฐานที่ได้จากความร่วมมือระหว่างประเทศกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐฟินแลนด์ พบว่า มีขบวนการสมคบระหว่างนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ และบุคคลธรรมดา ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทผู้ประสานงานฝั่งไทยที่ประสานงานกับบริษัทนำเข้าแรงงานของสาธารณรัฐฟินแลนด์ เป็นค่า “หัวคิว”
(DOE MAMAGEMENT) หรือค่าดำเนินการ เฉลี่ยรายละ 3,000 บาท โดยไม่มีสิทธิเรียกเก็บตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทประสานงานฝั่งไทยได้นำมาเรียกเก็บจากคนงานที่ไปทำงานอีกชั้นหนึ่งนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายตามจริง โดยมีผู้อยู่ในข่ายต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 12,000 คน คิดเป็นเงินรวมประมาณ 36 ล้านบาท

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการ จึงได้มีมติกล่าวหาบุคคลดังกล่าว รวม 4 คน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือโดยทุจริต ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 โดยหลังจากนี้จะนำส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

Related Posts

Send this to a friend