‘มงคลกิตติ์’ ยังเชื่อ ‘แตงโม’ ตกน้ำที่ท่าเรือเทเวศร์ ชี้ คนขับเรือเจตนาหลบมุมกล้อง

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ยังเชื่อ ‘แตงโม’ ตกน้ำที่ท่าเรือเทเวศร์ ชี้ คนขับเรือมีเจตนาหลบมุมกล้อง และรู้กฎหมายเดินเรือดี
วันนี้ (10 มี.ค.65) เวลา 15.00 น. หลังนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เดินสายตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อรวบรวมหลักฐานคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ไล่ดูกล้องวงจรปิดตั้งแต่ท่าน้ำวัดสร้อยทอง แต่กล้องเสีย จึงมาตรวจสอบที่ใต้สะพานพระราม 7 กรมทางหลวงชนบท ซึ่งเห็นภาพทั้งขาไป และขากลับ ทั้งนี้ได้ประสานไปยังผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ข้อมูลว่า กฟผ.ส่งข้อมูลไปให้ตำรวจ และกรมเจ้าท่าแล้ว
จากนั้นจึงเดินทางไปที่ซีแพค ฝั่งตรงข้าม กฝผ. ซึ่งจุดนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดเลย ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงพระนครเหนือ มีกล้องอยู่ 1 ตัว ส่วนใหญ่จะเป็นเรือขนทรายบังหมด และเป็นมุมแคบไปทางซ้ายมือแทบจะมองไม่เห็น
นายมงคลกิตติ์ มั่นใจว่า คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรม 98% เพราะได้เห็นพยานหลักฐาน แม้คลิปออกมาที่เป็นของ กฝพ. ตอนดูแล้วไม่ค่อยชัดเจน แต่มีลักษณะของเรือสปีดโบ๊ตวิ่งผ่าน และมีเหมือนน้ำหมุนมาจากด้านล่าง เท่าที่เห็นยังไม่มีลักษณะเงาของมนุษย์ที่กระโดดลงไป ยังยืนยันเช่นเดิมว่า แตงโมตกเรือที่ท่าเทเวศร์ เพราะสภาพศพฟันหัก มีลักษณะโดนทุบที่หัว ตาปิด บริเวณหน้าอกเป็นจ้ำเลือด และบริเวณขาด้านขวามีแผลยาว 30 ซม. กว้างประมาณ 3 นิ้ว ส่วนขาด้านซ้ายมี 2 แผล ซึ่งยังไม่รวมแผลที่หลังขา
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายมงคลกิตติ์ เดินทางเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สภาผู้แทนราษฎร โดยเปิดเผยว่า กล้องวงจรปิดริมแม่น้ำเจ้าพระยาของสภาผู้แทนราษฎรมีทั้งหมด 8 ตัว เป็นกล้องคุณภาพดี 360 องศา โดยวันเกิดเหตุ (24 ก.พ.65) เวลา 21.47 น. พบเรือสปีดโบ๊ตที่คาดว่า จะเป็นเรือลำเกิดเหตุขับผ่านสภาฯ ในช่องขวาสุด เหมือนมีเจตนาหลบเลี่ยงกล้อง แต่เมื่อแล่นผ่านสะพานพระราม 7 สะพานซังฮี้กลับวิ่งช่องซ้ายสุด ก่อนที่เรือสปีดโบ๊ตจะวกกลับมาในเวลา 22.17 น.
นายมงคลกิตติ์ ตั้งข้อสังเกตว่า คนขับเรือน่าจะรู้กฎหมายการเดินเรือ เพราะโดยปกติเรือจะวิ่งช่องทางขวา เพียงแต่จงใจขับช่องทางซ้ายเพื่อหลบมุมกล้อง