สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หน่วยงานรัฐ หารือแก้กฎหมายการเก็บ DNA นักโทษ
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมหน่วยงานภาครัฐ ร่วมหารือแก้กฎหมายการเก็บ DNA นักโทษ เพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมให้เป็นไปตามหลักสากล เน้นคำนึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นหลัก
พันตำรวจเอกทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า กองสารพันธุกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จัดประชุม “ร่างพระราชบัญญัติข้อมูลสารพันธุกรรมของผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก” โดยมี แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา พล.ต.ต.สันต์ สุขวัจน์ รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พันตำรวจโทเชน กาญจนาปัจจ์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการกฎหมาย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนสถาบันอุดมศึกษา เข้าร่วมประชุม
โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติข้อมูลสารพันธุกรรมฯ เพื่อชี้แจงรายละเอียดของกฎหมายที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลสารพันธุกรรมฯ ที่ได้จากงานวิจัยเกี่ยวกับหลักการที่สำคัญสำหรับกฎหมายฐานข้อมูลสารพันธุกรรมดีเอ็นเอ สำหรับนักโทษในประเทศไทย พร้อมทั้งขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากผู้เข้าร่วมการประชุม เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติข้อมูลสารพันธุกรรมฯ ให้สามารถนำไปใช้ในกระบวนการยุติธรรมและการสืบสวนสอบสวนอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
พันตำรวจเอกทรงศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า สถาบันนิติฯ ได้ยกร่างพระราชบัญญัติข้อมูลสารพันธุกรรมมาตั้งแต่ปี 2558 รวม 6 ครั้ง แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เพื่อต้องการยกระดับการพัฒนางานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การก่อการร้าย และความมั่นคง ซึ่งในต่างประเทศให้ความสำคัญเรื่องการเก็บข้อมูลสารพันธุกรรม เช่น ประเทศอังกฤษ มีเจตนารมณ์ในการปราบปรามอาชญากรรม รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในการระบุบุคคลผู้เสียชีวิตหรือผู้เกี่ยวข้องกับข้อมูล DNA ส่วนประเทศฝรั่งเศส ได้ใช้วิธีเก็บรักษาข้อมูล DNA ของจำเลยจนถึงอายุ 80 ปี ก่อนจะลบข้อมูลออกเมื่อพนักงานอัยการหรือผู้ต้องหาร้องขอว่าไม่ปรากฏความผิด
“ปัจจุบันเรามีวิธีการจัดเก็บข้อมูล DNA จากเยื่อบุกระพุงแก้มซึ่งไม่ได้กระทบกับการเจาะเลือด แต่อาจส่งผลต่อร่างกายของผู้ถูกจัดเก็บ แต่เราได้รับความยินยอมแล้ว การศึกษาวิจัยในกรณีนี้จะมุ่งไปที่ตัวบุคคลที่ต้องการให้ถูกจำคุกในคดีสำคัญและร้ายแรงเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บสารพันธุกรรมกับบุคคลทั่วไปที่เสี่ยงโดนกล่าวหาว่าอาจไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพผู้อื่น และหลังจากนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะสรุปเนื้อหาเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติข้อมูลสารพันธุกรรมดังกล่าวต่อไป” พันตำรวจเอกทรงศักดิ์ ระบุ
