ศุลกากรหนองคาย ยึดเนื้อสุกรแช่แข็งลักลอบนำเข้า 8 พัน กก. มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท
วันนี้ (7 ก.ย. 65) นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 แถลงผลการตรวจยึดเนื้อสุกรแช่แข็ง ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวนรวม 8,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท พร้อมรถกระบะ 2 คัน
สืบเนื่องจาก สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงพื้นที่สืบสวนติดตามการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายเนื้อสุกรลักลอบในพื้นที่ภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันนี้ พบรถยนต์กระบะบรรทุกเสริมคอก 2 คัน บริเวณ ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จึงเข้าตรวจสอบ พบซุกซ่อนเนื้อสุกรแช่แข็ง กำเนิดต่างประเทศ ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 8,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท
คนขับรถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขับรถยนต์บรรทุกเนื้อสุกรดังกล่าว ส่งลูกค้าปลายทางที่ จ.มหาสารคาม โดยเนื้อสุกรทั้งหมด ลักลอบนำเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดนติด ก่อนจะกระจายตามร้านอาหารในพื้นที่ต่างๆ
สำหรับการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็ง เป็นการช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย ซื้อเนื้อสุกร ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศนั้น เป็นความผิดตามมาตรา 246 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของ รวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมด และควบคุมผู้ต้องหาส่งสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ASF ประกอบกับหลายประเทศยังมีการใช้สารเร่งเนื้อแดง ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค รวมถึงเพื่อปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรภายในประเทศด้วย