CRIME

ผู้เสียหายร้อง บช.ก. โอนคดีถูกตุ๋นลงทุนโควต้าสลากกินแบ่งทิพย์สูญเงินกว่า 34 ล้าน

ผู้เสียหายรวมตัวร้อง บช.ก. โอนคดีถูกตุ๋นลงทุนโควต้าสลากกินแบ่งทิพย์ หลังสูญเงินรวมกว่า 34 ล้านบาท หวั่นมีผู้มีอิทธิพลพื้นที่แทรกแซง

วันนี้ (7 ม.ค. 68) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.ปุน (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พร้อมตัวแทนผู้เสียหายรายอื่น ๆ รวม 17 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เริงศักดิ์ ชุ่มจิตติ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกนายไพโรจน์ และพวก หลอกลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลสูญเงินรวมกว่า 34 ล้านบาท โดยนำหลักฐานเอกสารการโอนเงิน และแชทสนทนา มามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

น.ส.ปุน กล่าวว่า เมื่อปี 2564 ได้รู้จักกับนายไพโรจน์ผ่านคนรู้จัก ก่อนถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล อ้างรู้จักผู้ใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพะเยา มีโควต้าจำนวนมาก จึงตัดสินใจร่วมลงทุน ช่วง 2-3 เดือนแรก สามารถจัดหาโควต้าลอตเตอรี่มาให้ได้จริง ก่อนที่ต่อมาจะบอกว่าให้ลงทุนแค่เงินอย่างเดียวพอ ส่วนตัวลอตเตอรี่ให้ทีมงานนำไปขาย

ต่อมาเดือน ส.ค. 67 นายไพโรจน์เริ่มบ่ายเบี่ยง อ้างธุรกิจติดปัญหาเรื่องการบริหารจนขาดทุน ก่อนจะเริ่มขาดการติดต่อ ตนเองและผู้เสียหายรายอื่น ๆ จึงพยายามหาข้อมูลจนพบว่า จำนวนลอตเตอรี่ที่ให้คนนำมาวางขายไม่ได้มีจำนวนมากพอ หรือสอดคล้องกับจำนวนเงินที่ผู้เสียหายร่วมลงทุน ซึ่งมีมากกว่าร้อยล้านบาท จึงเชื่อว่าถูกหลอก

“เฉพาะตนเองเพียงคนเดียวก็ลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท เช่นเดียวกับนายธี ที่ลงทุนไปกว่า 18 ล้านบาท ขณะที่ผู้เสียหายคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ลงทุนตั้งแต่หลักล้านบาทขึ้นไป รวม ๆ มีผู้เสียหายจากหลาย ๆ พื้นที่ภาคเหนือ มียอดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท บางคนก็ไม่กล้าแจ้งความเพราะเกรงกลัวหลังถูกข่มขู่“ น.ส.ปุน กล่าว

น.ส.ปุน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าเคยนำเรื่องเข้าแจ้งความตามโรงพักท้องที่ต่าง ๆ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจดังกล่าว จึงตัดสินใจพากันมาร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจสอบสวนกลาง ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

Related Posts

Send this to a friend