CRIME

เหยื่อแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินร้อง ผบ.ตร. เร่งสืบสวน-จับกุมทั้งขบวนการหลังสูญเงินกว่า 30 ล้าน

วันนี้ (7 ม.ค. 65) กลุ่มผู้เสียหาย ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้ตำรวจปรับวิธีการทำงานหรือตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีที่กลุ่มประชาชนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จนสูญเสียทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท

ตัวแทนผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่ามีแก๊งมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งพัสดุ โทรแจ้งว่าผู้เสียหายส่งของผิดกฎหมาย และยังมีการแอบอ้างตัวเป็นตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปง. หลอกลวงพูดคุยด้วยวิธีการต่างๆ เช่น พยายามสอบถามข้อมูลว่าได้ไปลืมบัตรประชาชนที่ไหนหรือไม่ จึงทำให้มีชื่อไปพัวพัน และอ้างมีข้อมูลผู้เสียหายได้รับส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นจากยอด จึงต้องตรวจสอบว่าบัญชีไหนที่เป็นบัญชีปลอม และให้บอกข้อมูลบัญชีทั้งหมดที่มี หากข้อมูลไม่ตรง ก็จะทำการอายัดบัญชี โดยพยายามหว่านล้อมวา เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้เสียหายเป็นผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่พร้อมจะช่วย จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ ที่มีอยู่ ไปให้กลุ่มมิจฉาชีพ

ล่าสุดพบว่า มีผู้เสียหายแล้ว 83 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 30 ล้านบาท โดยในจดหมายเปิดผนึกของกลุ่มผู้เสียหาย ระบุว่า การดำเนินงานของตำรวจแต่ละฝ่ายมีลักษณะที่แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกัน จนอาจนำไปสู่ความล่าช้าในการติดตามขบวนการนี้ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที กลุ่มผู้เสียหายจึงขอความเห็นใจและความอนุเคราะห์จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับการทำงานของ สน.และสภ. ให้ปรับวิธีการทำงานที่บูรณาการมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบของคดี กลโกง และการหลบหนีของขบวนการดังกล่าวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะขั้นตอนออกหมายเรียกและหมายจับบัญชีรับจ้าง (บัญชีม้า) แต่ละราย เพื่อให้คดีเกิดความรวดเร็วพร้อมทั้งขอสนับสนุนการทำงานของ บช.สอท. หรือจัดตั้งคณะทำงานพิเศษหรือหน่วยเฉพาะกิจ เพื่อรับสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมขบวนการแก๊งมิจฉาชีพในลักษณะนี้ โดยเฉพาะ ให้มีอำนาจโดยตรงในการติดตามแกะรอยบัญชีรับจ้าง (บัญชีม้า) และมีอำนาจในการติดตามเส้นทางการเงินของขบวนการมิจฉาชีพ เพื่อนำทรัพย์สินกลับคืนให้กับผู้เสียหายให้ได้มา

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat