ผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชนไทยรวม 24 ราย ร้องกองปราบ หลังถูกผู้จัดแข่งขันกอล์ฟหลอกลงทุน
ผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชนไทยรวม 24 ราย ร้องกองปราบฯ หลังถูกผู้จัดแข่งขันกอล์ฟหลอกลงทุน-ซื้อสินค้า เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (4 ธ.ค 66) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้ปกครองของนักกอล์ฟเยาวชนไทย รวม 24 ราย เดินทางมายังศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ พงส.กก.1 บก.ปคบ. หลังถูกหลอกให้จ่ายเงินเพื่อไปแข่งขันในรายการ ‘US Kids’ ประเทศสก๊อตแลนด์ และหลอกให้ร่วมลงทุนอีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท
ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงกับผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟชายรายหนึ่ง อักษรย่อ ณ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการแข่งขันกอล์ฟเยาวชน เป็นผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนหลายรายการทั่วประเทศ และยังเปิดบริษัทขายสินค้าเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ปกครองถูกผู้ก่อเหตุหลอกลวงในหลายรูปแบบ ทั้งหลอกให้ลงทุนขายอุปกรณ์กีฬากอล์ฟ หลอกขายอุปกรณ์กีฬากอล์ฟแต่ไม่ส่งสินค้า หลอกซื้อทัวร์พานักกีฬาไปแข่งขันที่ต่างประเทศ และหลอกให้ร่วมหุ้นจัดการแข่งขัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.หลอกให้ร่วมลงทุนซื้อกล้องส่องระยะกอล์ฟมาขาย โดยอ้างว่าลงทุน 5 แสนบาท จะนำสินค้าไปขายให้เอง รอแค่ส่วนแบ่งจากกำไร แต่เมื่อให้เงินไปก็ไม่ได้นำไปลงทุนซื้อสินค้ามาขายจริง ทั้งนี้ มีผู้เสียหายรวม 3 ราย
2.หลอกขายเครื่องวัดระยะกอล์ฟ และซิมูเลเตอร์ ช่วงแรกมีผู้ที่สั่งซื้อแล้วได้จริง แต่มีผู้เสียหายสั่งซื้อไป จำนวน 8 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 66 จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับสินค้า อีกทั้งเมื่อตรวจสอบราคาสินค้า พบว่ามีราคาเพียง 4 แสนบาท ทั้งนี้ มีผู้เสียหายราว 10-20 ราย
3.หลอกขายทัวร์นาเมนต์เพื่อพาไปแข่งขันโปรแกรมที่สก๊อตแลนด์ ในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยผู้ก่อเหตุบอกกับกลุ่มผู้ปกครองของนักกีฬาเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกไปแข่งขันรายการนี้ประมาณ 10 คนว่าจะดำเนินการจัดทัวร์ให้ รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าอาหาร แต่ต้องรีบจ่ายเงิน ไม่เช่นนั้นตั๋วจะราคาแพงขึ้น ทั้งนี้ มีผู้เสียหายถูกหลอก 10 ครอบครัว มูลค่าราว 3 ล้านบาท
4.หลอกให้ร่วมลงทุนเข้าหุ้นกับบริษัท รายละ 3 แสนบาท แต่ไม่มีการแบ่งกำไรตามที่อ้างไว้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายได้ทวงถามไปยังผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังอยู่ในวงการกอล์ฟเยาวชน ซึ่งมีการจัดการแข่งขันอยู่ทุกเดือน จึงต้องการดำเนินคดีเพื่อไม่ให้สามารถไปหลอกลวงใครได้อีก เบื้อนต้นพนักงานสอบสวนจึงพาผู้เสียหาย 3 รายแยกสอบปากคำเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ก่อเหตุตามกฎหมายฐานฉ้อโกงประชาชนต่อไป
