CRIME

บชน.ขยายผลจับกุมเครือข่าย ‘คิงส์ นนทบุรี’ เครือข่ายยาเสพติด ฟอกเงิน

วันนี้ (4 มี.ค. 65) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บชน.พลตำรวจเอกรอย อิงคำพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แถลงผลการจับกุมขยายผลเครือข่าย ‘คิงส์ นนทบุรี’ เครือข่ายยาเสพติด ฟอกเงินค้ายาเสพติดเป็นน้ำมันส่งออกประเทศเมียนมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ตำรวจสืบสวนนครบาลได้จับกุมนายพิทวัส แสงโสภา หรือ คิงส์ นนทบุรี และนายชยุต ตามหมายจับศาลธัญบุรีในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งภายหลังศาลธัญบุรีพิพากษาประหารชีวิต นายพิทวัส ส่วนนายชยุต ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต 

สำหรับพฤติการณ์ นายพิทวัสเป็นเจ้าของยาเสพติดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้ นายชัชวาลย์พร้อมพวก นำยาบ้า จำนวน 1,043,800 เม็ด ไปส่งให้เครือข่าย ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 และ สั่งการให้นายอัครัฐ พร้อมพวก นำ ไอซ์ นำ้หนัก 86 กิโลกรัม ไปจำหน่ายให้เครือข่าย ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564

ต่อมาตำรวจได้ไปตรวจค้นบ้านนายพิทวัส พบโทรศัพท์มือถือซึ่งในเครื่องมีข้อความเกี่ยวกับการติดต่อซื้อขายยาเสพติดและการชำระเงินค่ายาเสพติด โดยนายพิทวัสชำระเงินค่ายาเสพติดไปที่บัญชีธนาคารที่ถูกควบคุมโดยเจ้าของยาเสพติดที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ก่อนที่กลุ่มของนายวรวัฒน์จะทำหน้าที่เปลี่ยนเงินดังกล่าวเป็นน้ำมัน เพื่อนำเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดออกนอกประเทศไทย ไปให้กับเจ้าของยาเสพติดที่อยู่ต่างประเทศ โดยทำทีเป็นประกอบธุรกิจน้ำมันส่งออกบังหน้า เฉพาะในปี 2564 มีการเปลี่ยนสภาพเป็นการซื้อน้ำมันส่งไปเมียนมา ประมาณ 500 ล้านบาท อีกทั้งกลุ่มของ นายวรวัฒน์ยังรับโอนเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดอีกหลายเครือข่าย

ตำรวจสืบสวนนครบาลจึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. วางแผนเข้าตรวจค้นและจับกุมในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อจับกุมเครือข่ายของ นายวรวัฒน์ พร้อมพวกรวม 4 คนและตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องในคดี จำนวน 14 จุด ใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย , ตาก , นนทบุรี , มหาสารคาม , ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์

โดยปฏิบัติการตรวจค้นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในครั้งนี้ จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน คือ นายวรวัฒน์ จับกุมได้ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , นายเปี่ยมศักดิ์จับกุมได้ที่จังหวัดเชียงราย , นายสุนันท์ จับกุมได้ที่จังหวัดเชียงราย และนางศิริวรรณ จับกุมได้ที่จังหวัดตาก

ผลการตรวจค้น เป้าหมดทั้ง 14 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัดทั่วประเทศ ตรวจยึดทรัพย์สินได้หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดิน 7 แปลง , อาวุธปืน 36 กระบอก , นาฬิกาหรู 12 เรือน , รถยนต์ 14 คัน , เรือ 14 ลำ , ทองรูปพรรณ , เงินสด , บัญชีธนาคาร 14 บัญชี และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 155 ล้านบาท

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลต่อไป

Related Posts

Send this to a friend