CRIME

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงจับกุมชายชาวฝรั่งเศสอ้างรู้จักตนเอง ข่มขู่รีดไถนักท่องเท่่ยว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงจับกุม ชายชาวฝรั่งเศส อ้างรู้จักตนเอง หลอกลวง-ข่มขู่รีดไถ นักท่องเที่ยวชาติเดียวกัน มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท พร้อมเตรียมออกจับตำรวจ ตม. ตั้งแต่ระดับนายพล เอี่ยวในคดีทุนจีนอีกกว่า 100 นาย ในสัปดาห์หน้า

วันนี้ (2 ก.พ. 66) เวลา 14:30 น.ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 และคณะ แถลงข่าวจับกุม นายเฮอวี่ คริสเตียน เลนเนิร์ด ชายชาวฝรั่งเศส โดยมีพฤติการณ์ อ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจระดับสูง และผู้มีอิทธิพลในประเทศ เพื่อเรียกค่าคุ้มครองจากกลุ่มชาวต่างชาติ รวมถึงการหลอกลวงผู้เสียหายในรูปแบบต่างๆ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตำรวจพบว่าผู้ต้องหา อาศัยอยู่ในประเทศไทยมาแล้วกว่า 20 ปี สามารถพูดภาษาไทยได้ และเคยเป็นอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวในพัทยา ตั้งแต่เมื่อปี 2562 ซึ่งมีพฤติกรรมชอบถ่ายภาพคู่กับคนในเครื่องแบบ โดยเฉพาะการแอบอ้างชื่อว่ารู้จักสนิทสนมกับตนเอง และถ่ายภาพขณะนั่งรถตำรวจท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งเข้าไปทำความรู้จักกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก่อนที่จะเป็นนายหน้ารับประสานงานกับตำรวจเพื่อต่อวีซ่า

อีกทั้ง เมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเดือดร้อน ผู้ต้องหาจะทำหน้าที่ประสานงานคอยช่วยเหลือ และทำตัวเป็นทนายให้กับชาวฝรั่งเศสในหลายคดี เช่นคดียาเสพติด นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมเข้าไปเป็นนายหน้าเป็นคนกลางในการโอนทรัพย์สิน ก่อนหลอกเอาทรัพย์สินของเหยื่อ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาถูกออกหมายจับในประเทศไทยแล้ว 5 หมายจับ ในฐานความผิด ขู่กรรโชกทรัพย์ ฉ้อโกง และหลอกลวง ซึ่งหนังสือเดินทางสิ้นสุดตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 รวมเป็นระยะเวลาโอเวอร์สเต 868 วัน ซึ่งจากนี้จะมีการเรียกผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพัทยา ทั้งคนเก่า และคนใหม่ รวมถึงสารวัตร เข้ามาสอบถามว่าเหตุใดถึงปล่อยให้มีกรณีนี้เกิดขึ้น

พร้อมกำชับให้ตำรวจ ตม. ตื่นตัวกับเรื่องดังกล่าวในการปฎิบัติงาน โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำมาในเรื่องนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เชื่ออีกว่า ผู้เสียหายจากจะต้องมีมากกว่านี้ แต่ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามา พร้อมระบุว่า วันนี้เราจะไม่ยอมให้บุคคลเหล่านี้มาอาศัยอยู่ในดินแดนของเรา และฝากเตือนไปถึงผู้ชอบอ้างชื่อของตน ว่าหากมีการอ้างอีกก็จะจับอีก นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานทูตฝรั่งเศสมาติดตามในคดีนี้ พร้อมมอบเหรียญเชิดชูจากตำรวจของของสถานทูตฝรั่งเศสอีกด้วย

ด้านล่ามแปลภาษา ยกตัวอย่างการถูกหลอกของผู้เสียหายว่า ผู้ต้องหาทำทีเข้ามาตีสนิทกับผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของกิจการ จากนั้นอ้างว่าผู้เสียหายมีการทำผิดกฎหมายเรื่องการเปิดบริษัท และเอกสาร ตม. จึงแสดงตัวเข้าให้การช่วยเหลือ โดยแลกกับการจ่ายเงินจำนวน 7-8 ล้านบาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทั้งๆ ที่ไม่มีความผิดจริง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากที่มีการสืบสวนสอบสวนคดีที่ข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกการทำวีซ่ากับทุนจีนสีเทา ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนเสร็จแล้ว จะสรุปและทำเรื่องเสนอไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกว่า 110 นาย โดยยศสูงสุดคือระดับนายพล ในฐานความผิด ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมราตรา 157 และ ความผิดฐานเรียกรับผลประโยชน์ ตามมาตรา 149 โดยจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า

Related Posts

Send this to a friend