ผู้การแจ้ ตั้งกรรมการสอบปมตำรวจไซเบอร์ร่วมก๊วนตำรวจ อุ้มรีดชาวจีน 300 ล้าน

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจไซเบอร์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์ชาวจีนกว่า 300 ล้านบาท โดยยืนยันว่า การตรวจค้นมีการนำหมายศาลเข้าไปอย่างถูกต้อง มีตำรวจกว่า 10 นาย เป็นตำรวจไซเบอร์ 3 นาย ซึ่งทันทีที่ทราบเรื่อง ต้นสังกัดได้ตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่ 17-18 ต.ค.

ส่วนข้อมูลและพฤติการณ์การกระทำความผิด ตำรวจไซเบอร์ได้ประสานข้อมูลและส่งให้ตำรวจนครบาล ยืนยันว่าการเข้าไปตรวจค้นมีหมายศาลถูกต้อง แต่การปฎิบัติเป็นไปตาม พ.ร.บ. อุ้มหายหรือไม่ มีการถ่ายวิดิโอครบถ้วนหรือไม่ และตอนที่นำตัวมาที่ สอท.1 ดำเนินการตามขั้นตอนถูกหรือไม่ มีการรีดทรัพย์จริงหรือไม่ หากพบกระทำความผิดจริงและหลักฐานไปถึงใคร จะดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้นแน่นอน

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากตำรวจกว่า 10 นาย นำหมายค้นเข้าไปตรวจค้นที่บ้านพักย่านอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ของนายไซ สัญชาติวานูอาตู เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 67 มีการรีดเงินเป็นเงินสกุลดิจิทัล USDT จำนวน 10 ล้านเหรียญ หรือเงินไทยประมาณ 300 ล้านบาท โดยผู้ตรวจค้นอ้างว่า ผู้ต้องหาชาวฟิลิปปินส์ระบุว่านายไซมีส่วนกระทำความผิดกฎหมายและคนใช้ของนายไซเป็นชาวต่างชาติไม่มีใบอนุญาตทำงาน จึงต้องนำตัวไปสืบสวนขยายผล

การตรวจค้นดังกล่าวมีล่ามชาวจีนสองคนเป็นสามีภรรยา ช่วยแปลหมายค้นให้ฟัง เนื่องจากผู้เสียหายอ่านภาษาไทยไม่ออก ก่อนจะนำตัวนายไซขึ้นรถตู้จากจังหวัดสมุทรปราการ และขับรถวนมาที่ตำรวจไซเบอร์ 1 โดยนำตัวไปทำบันทึกการจับกุม ทราบว่ามีการรีดเงิน 5 ล้านบาท ก่อนนำตัวไปที่ตำรวจไซเบอร์ 1

ต่อมาวันที่ 17 ต.ค. ผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงปรึกษาทนายว่ามีเรื่องอะไรที่ตำรวจมาตรวจค้นและสงสัยว่าล่ามที่มาช่วยแปลภาษามีส่วนรู้เห็น จึงให้ทนายประสานไปยังล่ามให้บอกรายชื่อตำรวจที่ไปรีดไถ แต่กลับถูกล่ามรีดเงินเพิ่มอีก 7 แสนบาท แลกกับการบอกรายชื่อตำรวจชุดที่ไปจับกุม ต่อมาวันที่ 18 ต.ค. นายไซเข้าแจ้งความกับตำรวจทุ่งสองห้องจนกระทั่งวันที่ 28 ต.ค. ตำรวจไซเบอร์ที่ถูกพาดพิง 3 นาย ได้เข้าไปมอบตัวกับ สน.ทุ่งสองห้อง โดย บก.สอท 1 มีคำสั่งให้ไป ศปก.บก.สอท.1 ต่อมาเมื่อมีข่าวจึงเปลี่ยนคำสั่งให้ไปที่ ศปก.บช.สอท จนถึงปัจจุปัน

ตำรวจไซเบอร์ 3 นาย ประกอบด้วย ร.ต.อ.ธนกฤต รองสว.กก.1บก.สอท.1, ด.ต.สุพรรณ และ จ.ต.กิตติภูมิ ผบ.หมู่กก.1บก.สอท.1 ถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.สอท1. ก่อนจะมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.บช.สอท. โดยให้ขาดจากตำแหน่ง

ส่วนรายชื่อที่ตํารวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้ออกหมายจับ ประกอบด้วย พลเรือน 3 คน และตํารวจ 9 นาย รวม 12 คน ขณะนี้สามารถจับกุมตํารวจแล้ว 9 นาย และพลเรือน 1 คน ในความผิดฐาน “เรียกรับผลประโยชน์ , ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์ , ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกรรโชกทรัพย์” ส่วนล่ามสองสามีภรรยาอยู่ระหว่างหลบหนี คือ นายหยุน และ นางสาวอภัสรา โดยตํารวจ สน.ทุ่งสองห้อง อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวมาดําเนินคดี

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบให้ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 เป็นประธานกรรมการ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน