‘ชูวิทย์’ ยันไม่กลัวตาย แฉ “5 เสือจีนเทา” กลุ่มทุนจีนใหญ่ในไทย

‘ชูวิทย์’ ชม รองผบ.ตร. แก้ไขปัญหารวดเร็ว ชี้ สังคมกำลังตั้งคำถาม ทำไมถึงเพิ่งแก้ ยันไม่กลัวตาย แฉ “5 เสือจีนเทา” กลุ่มทุนจีนใหญ่ในไทย

วันนี้ (1 พ.ย. 65) เวลา 16:10 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เปิดเผยภายหลัง จากการยืนสังเกตการณ์ และฟังการแถลงข่าว ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการบุกตรวจค้น สถานบันเทิงของนายทุนต่างชาติ โดยระบุว่า วันนี้มาในฐานะที่เป็นผู้เปิดประเด็นเรื่องของกลุ่มทุนจีนสีเทา เพื่อมาขอบคุณรอง ผบ.ตร. ทั้ง 2 คนที่รับฟังข้อมูลเบาะแส และการชี้เป้าของบางส่วน จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดได้ในที่สุด อย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่สัปดาห์เดียวเท่านั้น

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า การจัดการผู้กระทำความผิดของรองผบ.ตร. ของทั้งคู่ในขณะนี้ ที่มีความรวดเร็ว ทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่า แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่ยอมจัดการ ทำไมถึงปล่อยให้ทุนจีนเหล่านี้เติบโต จนก่อปัญหามากมาย ทั้งการเปิดผับผิดกฎหมายไม่มีใบอนุญาต รวมถึงการค้ายาเสพติดในพื้นที่ พร้อมทั้งระบุว่า ตนเองไม่กลัวตาย และยังเปรียบตัวเองเป็นเหมือนองคุลีมาล อีกด้วย

นายชูวิทย์ เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ในประเทศไทยมีกลุ่มทุนจีนใหญ่ ๆ ทั้งหมด 5 กลุ่ม ที่เรียกกันว่า ‘ 5 เสือจีนเทา’ ได้แก่ กลุ่มของนายเดวิด, นายฉางเฟย, นายโทนี่, นายเอี่ยว และชายชาวจีนอีก 1 คน (สงวนชื่อ) ซึ่งขณะนี้ ถูกตำรวจคุมตัวไว้แล้ว 4 คน เหลือเพียงอีก 1 คน

นายชูวิทย์ ระบุอีกว่า กลุ่ม 5 เสือจีนเทา ถือเป็นกลุ่มทุนที่เงินหนา มีการทำธุรกิจสีเทาในประเทศไทย โดยใช้นอมินี สวมสัญชาติไทยของคนตาย ชอบติดสินบน และมีคอนเนคชั่นเยอะ ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่ที่กลุ่มทุนจีนเหล่านี้ทำ มักเป็นแบบศูนย์เหรียญ ใช้ทรัพยากรคนจีน ซ่องสุมการกระทำความผิดในไทย ซึ่งทำให้คนไทยนั้นก็เสียประโยชน์

อีกทั้ง ภายหลังจากที่จับกุมคนจีนเหล่านี้ได้แล้ว สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไม่ให้คนจีนเหล่านี้หลุดไปได้ คือ การตรวจเส้นทางการเงิน ที่จะเป็นหลักฐานชั้นดี รวมถึงเตรียมพร้อมด้านกฎหมายให้แม่น เนื่องจากคนจีนกลุ่มสีเทามักจะมีคอนเนคชั่นเยอะ

นายชูวิทย์ กล่าวย้ำอีกว่า การปราบปรามทุนจีนสีเทา ถือเป็นเรื่องที่ต้องจัดการมานานแล้ว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ แต่ตนก็มองว่า คงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน ซึ่งการเดินหน้าปราบอย่างจริงจัง ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงกลุ่มคนจีนสีเทาเหล่านี้แล้วว่า ให้กลุ่มทุนจีนสีเทาออกไปจากประเทศไทย ก่อนนายชูวิทย์จะกล่าวทิ้งท้ายถึงเจ้าหน้าที่ที่รับสินบนว่า “ขอให้เลิกทำ เพราะอันตรายจะย้อนกลับเข้าตัวเอง”