CRIME

รรท.ผบ.ตร. แถลงเตรียมส่ง นิติเวช รพ.ตำรวจ ประสานญาติ ตรวจ DNA สั่ง พิสูจน์อัตลักษณ์

รรท.ผบ.ตร. แถลงคืบหน้าเหตุรถทัศนศึกษานักเรียนเพลิงไหม้ เตรียมส่ง นิติเวช รพ.ตำรวจ ประสานญาติ ตรวจ DNA สั่ง พิสูจน์อัตลักษณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ส่วนคนขับหลบหนี สั่งเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ยัน จัดทีมไล่ล่า ไม่ปล่อยให้รอมอบตัว

วันนี้ (1 ต.ค. 67) เวลา 16:50 น. ที่ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง (ศปร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีรถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวถึงสาเหตุในเบื้องต้น จากการสอบสวนว่า ขณะนี้เราสันนิษฐานว่า เกิดจากยางล้อรถที่ระเบิด และทำให้เกิดประกายไฟ และในรถมีถังแก๊สที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถดังกล่าว ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปถึงในห้องผู้โดยสาร

ขณะที่ ตัวเลขผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้น ตอนนี้ที่มีการชีพ และกู้ภัยอยู่ เรายืนยันว่า พบร่างผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ยืนยันจำนวน โดยอยู่ระหว่างการถอดเบาะที่นั่งออก เพราะว่ายังมีร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ข้างในอยู่ และเมื่อเรานำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดออดมา ก็จะนำร่างไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยได้สั่งให้ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ให้ร่วมมือกับแพทย์นิติเวช ในการเก็บ DNA ของผู้เสียชีวิต และจะประสานกับทางญาติผู้ปกครองโดยสายเลือด เพื่อนำ DNA ไปเปรียบเทียบ และดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 2 วัน ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถรับศพกลับไปดำเนินการทางศาสนา และจะดูตามความสะดวกของญาติว่าเราจะสามารถให้แพทย์ที่ จ.อุทัยธานี มาได้หรือไม่ แต่อาจจะประสานงานให้ญาติเดินทางมาที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อจัดเก็บ DNA ให้เกิดความชัดเจนต่อหน้าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ส่วนกรณีของประตูฉุกเฉินสามารถเปิดใช้งานได้หรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จากการสอบถามคุณครูที่อยู่บนรถ ระบุว่าประกายไฟเกิดขึ้นรวดเร็วมาก แต่มีทั้งเด็ก และคุณครูจำนวนหนึ่งสามารถลงมาได้ ก็หมายความว่าประตูเปิดได้ มีเด็กบางคนที่กระโดดออกทางหน้าต่าง และมีอีกหลายคนที่อยู่ในอาการตกใจ จึงออกมาไม่ทัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเด็กคนไหนบ้าง

ส่วนตัวเลขผู้ที่อยู่บนรถนั้น แบ่งเป็นครู 6 คน และเด็กนักเรียน 39 คน รวม 45 คน เป็นเด็กที่อยู่ในระดับอนุบาล ประถม และมัธยม มีทั้งหญิง และชายปะปนกัน โดยพบครูแล้ว 3 คน อีก 3 คนยังไม่พบ ส่วนนักเรียนพบที่โรงพยาบาล 3 คน และอยู่ที่ศูนย์พักพิง​ 16 คนดังนั้น​ นักเรียนยังหาไม่เจอ 20 คน​ เราจึงขอยืนยัน​ จำนวนผู้สูญหาย 23 ราย​

สำหรับตัวคนขับรถบัสนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้เราให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลบุคคลของคนขับรถ และบริษัท เพื่อนำมาประกอบการสอบสวน โดยคนขับขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตาม ซึ่งตอนนี้เรากำลังทุ่มสรรพกำลังไปที่การกู้ภัย และดูแลเด็กที่อยู่ในขณะนี้ รวมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับคนขับรถเพื่อนำมาประกอบการสอบสวน และออกหมายจับ

ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าคนขับรถเป็นภารโรงไม่ใช่คนขับรถที่มีความเชี่ยวชาญนั้น​ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า​ เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบให้มีความชัดเจน​ว่า​ เป็นพนักงานที่บริษัทรถส่งมาหรือไม่ อย่างไร เพราะรถที่ใช้เป็นรถของเอกชน

ทั้งนี้​ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ย้ำผู้การจังหวัดปทุมธานี​ ว่า​ การสอบสวนต้องหาข้อเท็จจริง​ว่า​ เกิดจากความประมาท และบริษัทรถหรือไม่​ แต่หากไม่มีอุปกรณ์ในการป้องกัน​แสดงว่าไม่มีความพร้อมในการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้น ซึ่งเข้าข้อกฎหมายเรื่องการประมาทหรือไม่ และตนเองย้ำว่าทั้งบุคคล และบริษัทจะต้องถูกดำเนินคดี และช่วงเกิดเหตุ เรายังไม่ทราบข้อมูลว่าในขณะนั้นคนขับได้มีการช่วยเหลือเด็ก และผู้ปกครองหรือไม่ โดยตอนนี้ทราบว่าคนขับทราบว่าเป็นคน จ.สิงห์บุรี​ พร้อมย้ำว่า คดีนี้จะไม่มีการไปช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้นที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

สำหรับเรื่องการตรวจสอบสภาพรถนั้น มีมานานแล้วเป็นมาตรการทั้งขนส่ง ตำรวจ รวมถึงรถสาธารณะที่มีมาตรการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และในกระบวนการสอบสวนจะดูประเด็นพวกนี้ด้วย ถ้าบริษัทของผู้ขับขี่ละเลยถือว่าเป็นองค์ประกอบความผิด และยืนยันว่ากองพิสูจน์หลักฐานจะดูรายละเอียดทุกประเด็นทั้งเรื่องความเร็วของรถทั้ง 3 คัน เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดความเศร้าสลด การจะไปช่วยปกปิดเป็นไปไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตอนนี้ยังถือว่ารอให้คนขับรถมามอบตัวหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตอนนี้สถานนะคนขับยังใช้คำว่ายัง “หลบหนี” แต่เราคงไม่นั่งรอให้มอบตัว เราจะส่งทีมสืบสวนให้ติดตาม และหากได้ตัว เราจะให้ตำรวจภูธรภาค 1 แจ้งให้สื่อทราบต่อไป

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat