CRIME

’ครอบครัวน้องจีฮุน’ ยื่นคำร้องถึงกระทรวงยุติธรรม

ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต ด้านกระทรวงยุติธรรมพร้อมรับเรื่อง และให้ความช่วยเหลือ

วันนี้ (1 ก.ย. 65) ครอบครัวของน้องจีฮุน เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.2 วัย 7 ขวบ ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี เสียชีวิตในรถตู้รับส่งของโรงเรียน โดยในรถมีกระเป๋าเป้สะพานสีดำและแก้วน้ำดื่มวางอยู่ ซึ่งพ่อและแม่ของเด็กหวั่นเป็นการอำพรางศพ โดยครอบครัว และนายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว ยื่นคำร้องถึงกระทรวงยุติธรรมให้ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของน้องจีฮุน หลังมีข้อสงสัยหลายประการ

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง พร้อมกล่าวว่า เบื้องต้นกระทรวงยุติธรรมได้รับคำร้องของครอบครัวผู้เสียหายไว้ โดยสถาบันนิติวิทยาศาตร์ จะตรวจสอบประเด็นการเสียชีวิตว่าเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ หรือเกิดจากการขาดอากาศหายใจเป็นระยะเวลานาน พร้อมตรวจสอบสภาพรถตู้ที่เกิดเหตุเพื่อหาลายนิ้วมือแฝง รวมถึงจะตรวจสอบการผ่าพิสูจน์ศพโดยตำรวจว่าถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตเห็นดีกับมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ หากครอบครัวยังมีข้อสงสัยใด กระทรวงยุติธรรมก็จะยื่นคำร้องให้ผ่าพิสูจน์ซ้ำได้ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในระยะเวลาการทำงานของ รพ.ตำรวจ รวมไปถึงการติดตามการแจ้งข้อหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าวต่อว่า กรณีนี้เจ้าของโรงเรียนก็ต้องรับผิดชอบในการเสียชีวิต เพราะถือเป็นความผิดของลูกจ้าง เราจะจัดหาทนายความกองทุนยุติธรรมให้ความช่วยเหลือ และเยียวยาเงินไม่เกิน 110,000 บาท ประกอบกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และส่งเรื่องไปยังยุติธรรมจังหวัดต่อไป

น.ส.เมทิกา แม่ของน้องจีฮุน กล่าวว่า ได้มาขอยื่นคำร้องให้มีการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้คลายข้อสงสัย หลังโรงเรียนยังไม่แจ้งผลการตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ และสภาพเสื้อผ้า ท่าทางของลูกเรียบร้อยมาก ไม่มีคราบน้ำตา น้ำลายหรือปัสสาวะ ขณะที่โรงพยาบาลตำรวจแจ้งผลชันสูตรว่า ลูกเสียชีวิตจากอาการฮีทสโตรก จนระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว ซึ่งเกิดจากการอยู่ในที่ร้อนเป็นเวลานานจนหมดสติไป อย่างไรก็ตาม มองว่า ไม่ว่าลูกจะอ่อนเพลียแค่ไหนก็น่าจะเปิดประตูหรือกระจกรถได้ เพราะน้องยังร่าเริงแจ่มใส ไม่มีโรคประจำตัว

น.ส.เมทิกา ระบุว่า แพทย์แจ้งสภาพศพว่ามีรอยพกช้ำบริเวณต้นแขนซ้าย และจุดเขียวที่ขา รวมถึงรอยถลอกที่แขน ซึ่งเมื่อตอนเช้าที่อาบน้ำให้ลูก ยังไม่พบ นับว่าเป็นรอยใหม่ ทางแพทย์แจ้งว่าอาจเกิดการกระแทกกับขอบรถ ส่วนหลักฐานจากกล้องวงจรปิดนั้น ทางครอบครัวเห็นจากการนำเสนอของสื่อเท่านั้น ทางโรงเรียนยังไม่เคยให้ดูภาพจากกล้อง

นายไทยอนันต์ พ่อของจีฮุน ระบุว่า โรงเรียนประสานเข้ามาที่จะชดเชยค่าเสียหายให้แล้ว แต่ครอบครัวยังไม่พร้อมพูดคุย พร้อมยืนยันว่าน้องสามารถเปิดกระจกรถและเปิดประตูได้ แต่ไม่ทราบว่าสามารถเปิดประตูและกระจกรถของโรงเรียนได้หรือไม่

ด้าน นายมนต์ชัย กล่าวว่า ครอบครัวเกิดข้อสงสัยในหลายประเด็น คือ เด็กน่าจะดิ้นรนเอาชีวิตรอดในรถที่ร้อนระอุ เพราะเสื้อผ้าของน้องไม่หลุดรุ่ย รวมถึงยังไม่พบมีคราบใดบนกระจกและตามตัวรถ ทั้งๆ ที่เด็กยังเป็นวัยที่ซุกซน รวมถึงกล้องหน้ารถจะบันทึกเหตุการณ์ได้ แต่โรงเรียนและตำรวจยังไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนนี้มา นอกจากนี้ เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนเป็นระยะเพียง 15 นาที น้องจึงไม่น่าจะหลับลึกขนาดที่คนขึ้นลงรถก็ไม่ทราบ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat