รอง ผบช.ก. ชี้ ’เอกลักษณ์‘ เก่ง มีข้อมูลทุจริตหลายวงการ แม้แต่ ’ศรีสุวรรณ‘ ยังต้องฟัง
“ถ้าไม่เก่ง คุมตาศรีไม่อยู่“ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ชี้ ’เอกลักษณ์‘ เก่งมาก เป็นผู้มีความสามารถของขบวนการตบทรัพย์ มีข้อมูลทุจริตหลายวงการ แม้แต่ ’ศรีสุวรรณ‘ ยังต้องฟัง เห็นใจ ‘พิมณัฏฐา – ภรรยาศรีสุวรรณ‘ ลั่น ไม่ได้ชั่วเป็นนิสัย แต่ถูกไหลเข้าสู่วงจรอุบาทว์
วันนี้ (1 ก.พ. 67) เวลา 16:50 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ภายหลังตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าจับกุมนายเอกลักษณ์ หรือ ’เอก ปากน้ำ‘ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีขบวนการข่มขู่รีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยถึงนายเอกลักษณ์ว่า บุคคลรายนี้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นคนที่บริหารจัดการได้ดี สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้ ซึ่งมีความสามารถในการตรวจสอบการทุจริตของหน่วยงานรัฐ เก่งจนสามารถควบคุมนายศรีสุวรรณได้ ”ถ้าไม่เก่ง คุมตาศรีไม่อยู่“ นายศรีสุวรรณยังต้องฟังเขา เพราะนายเอกลักษณ์เป็นคนที่มีข้อมูลการทุจริต การตรวจสอบหน่วยงานรัฐต่างๆ เป็นจำนวนมาก และมีคอนเนคชั่น รู้จักคนเยอะ ถ้าหากนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมก็เป็นผลดีกับประเทศ แต่กลับนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง
ส่วนรายละเอียดการสอบปากคำตนเองยังไม่พูดคุยกับนายเอกลักษณ์ ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อหา ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งตนเองได้บอกกับนายเอกลักษณ์ว่าเมื่อมีการยื่นขอประกันตัวไป จะขอพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีมากกว่า
ส่วนการปฏิบัติการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปปป. ได้ออกหมายจับ และจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายนี้ได้เพียงรายเดียวก่อน แต่หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 ราย แต่เป็นผู้ร่วมขบวนการระดับล่าง ไม่ใช่ตัวการใหญ่ เพราะในวงนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณ 6 คน โดยยังไม่นับวงอื่น โดยคำว่า “วง” ในที่นี้แบ่งตามวงการกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อมูลทยอยเข้ามาเรื่อยๆ อีกหลายวง เป็นวงเจ้าหน้าที่รัฐ โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า หากนับรวมความเสียหายทุกวง ความเสียหายคาดว่าเกือบหลักร้อยล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกัน คือเริ่มต้นจากการร้องเรียน จากนั้นก็แปลงร่างมาเป็นคนเคลียร์ แต่สุดท้ายก็มาแบ่งเค้กกัน คล้ายกับกรณีของนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’
สำหรับกรณีการแถลงข่าวของนายยศวริศ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่าจะไล่ฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชน รวมถึงคนที่ร้องเรียน กล่าวหาว่านายยศวริศ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการรีดทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ พร้อมยกพานสาปแช่งขอให้คนเหล่านั้นมีอันเป็นไป พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยกมือ กล่าว ”สาธุ“ พร้อมกล่าวขอบคุณนายยศวริศ ที่ยอมรับว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นความจริง ซึ่งไม่รู้จะเป็นประโยชน์หรือโทษกับนายยศวริศกันแน่ และให้กำลังใจในการต่อสู้คดี เพราะถ้าตำรวจไม่มั่นใจในพยานหลักฐาน ก็คงไม่ดำเนินการจับกุมขบวนการของนายศรีสุวรรณ
นอกจากนี้ ยังรู้สึกเห็นใจ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์หรือ การ์ตูน อดีต ผู้สมัคร สส.จังหวัดอุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เลขาของนายยศวริศ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ รวมถึงภรรยาของนายศรีสุวรรณ ที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้ ซึ่งเชื่อว่าผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้ชั่วเป็นนิสัย แต่ถูกไหลเข้ามาสู่วงจรอุบาทว์ จึงรู้สึกเห็นใจมากกว่า
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเรียกที่ปรึกษาหมู และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาให้ปากคำภายในสัปดาห์นี้ แต่กรณีที่นายยศวริศ แถลงพาดพิงไปถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มองว่าก็เป็นสิ่งที่พูดไป และไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบปากคำ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทีมงานของนายยศวริศ ได้ส่งทีมทนายความมาช่วยเหลือด้านกฎหมายให้กับนายเอกลักษณ์อีกด้วย