นายเอกฐวีป เปิดเผยว่า ได้รวบรวมข้อมูลที่มีผู้แชร์ พบว่า อาจเป็นการที่เจ้าหน้าที่ส่งต่อข้อมูล เพื่อตรวจสอบกันเป็นการภายในหน่วยงาน แต่ข้อมูลหลุดออกมา แล้วถูกบุคคลที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูล นำไปเผยแพร่ จนมีผู้แชร์ไปกว่า 8,000 ครั้ง ส่งผลกระทบต่อตนเอง ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ เนื่องจาก ยอมรับว่าตเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในพื้นที่กรุงเทพฯเมื่อปี 2556 และถูกจำคุกเป็นเวลานานถึง 7 ปี ก่อนจะพ้นโทษมาได้เพียง10 เดือน
นายเอกฐวีป หรือเอก ได้นำหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดมายืนยันว่า ในวันที่ 9 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 20.30 น. นายเอก ทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะไปก่อเหตุในจังหวัดลพบุรี จึงตัดสินใจมาแจ้งความ
นายเอกฐทวีป ฝากถึงคนที่โพสต์ว่า การแชร์ข้อความ เพียงสั้นๆ อาจจะเป็นการทำลายชีวิตคนหนึ่ง ส่วนตัวเมื่อ พ้นโทษออกมาก็ตั้งใจมาทำงาน และเรียนปริญญาตรีให้จบ ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวเส้นทางสายโจรอีก พอมีเหตุการณ์นี้อาจถูกมองด้วยสายตาที่ไม่ดีจากสังคม
นายเอกฐวีป เข้าใจดีว่า สักวันอาจถูกตรวจสอบ เพราะหนึ่งในแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องตรวจสอบประวัติคนที่เคยก่อเหตุ เพื่อเทียบเคียงแผนประทุษกรรม
นายเอกฐวีป พฤติการณ์ก่อเหตุของคนร้าย เป็นคนมีฝีมือในการใช้ปืน และปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก็เชื่อว่าตำรวจสามารถจำกัดวงลงมาได้ ว่าเป็นกลุ่มใด ส่วนการแต่งกายของคนร้าย ในฐานะผู้ที่เคยก่อเหตุ ต้องแต่งกายให้ต่างจากชีวิตปกติ เพื่อปกปิดอัตลักษณ์ และรูปลักษณ์ของตัวเองจากผู้พบเห็น