ศาลจังหวัดตลิ่นชันอ่านคำพิพากษาคดี นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เมาแล้วขับรถชน เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล และภรรยา เสียชีวิต และบุตรสาวบาดเจ็บสาหกัส โดยได้ตัดสินจำคุก 6 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่เนื่องจากนายสมชาย ให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิด และไม่เคยมีประวัติ จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 3 ปี ปรับ 1 แสน บาท โดยโทษจำคุกรอลงอาญา 3 ปี
วันนี้ ศาลจังหวัดตลิ่งชัน อ่านคำพิพากษาคดีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัท ไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด เมาแล้วขับรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ อี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร ชนรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร บนสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก พังยับ เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล อายุ 48 ปี รอง ผู้กำกับ (สอบสวน) กก.2 บก.ป. และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยาเสียชีวิต และ ด.ญ.พิชญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส เมื่อเกิดเวลา 01.00 น. ของวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา วันเกิดเหตุตำรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดกรรมเดียว แต่หลายความผิดจึงลงโทษหนักที่สุดตาม พรบ.จราจรทางบก สั่งจำคุก 6 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยได้ให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิดและไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ศาลจึงให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกรอลงอาญา 3ปี โดยระหว่างนี้ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้งใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุ นายสมชาย ได้แสดงความรับผิดชอบต่อครอบครัวของ พ.ต.ท. จตุพร โดยดูแลค่ารักษาพยาบาล ด.ญ.พิชญาภา จนหายดี มอบเงินให้แก่แม่และญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 และมอบค่าดูแลบุตรสาวทั้ง 2 คน รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 45 ล้านบาท รวมถึงเลิกดื่มเหล้า และขับรถ พร้อมทั้งบวชหน้าไฟในวันพระราชทานเพลิงศพ และทำบุญให้กับผู้เสียชีวิต ญาติจึงให้อภัย และไม่ติดใจเอาความ