อ่านคำพิพากษาคดีฆาตกรรม นทท.ชาวอังกฤษ เกาะพงันปี 57 ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรน ให้ประหารชีวิตสถานเดียว

“ศาลฎีกา” เห็นว่า คดีนี้มีพยานหลักฐาน รวมทั้งผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ การตรวจสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ตรงกับจำเลย โดยการเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน เชื่อถือได้ มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนเฉพาะกิจที่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ควบคุมใกล้ชิดในการตรวจเก็บสถานที่เกิดเหตุและพยานหลักฐาน มีการตรวจเก็บดีเอ็นเอทั้งคนไทยและต่างชาติที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องจำนวนมาก และมีการใส่ถุงมือป้องกันการปนเปื้อน ใช้น้ำยาตรวจที่มีคุณภาพ เครื่องตรวจอัตโนมัติมีมาตรฐานในการตรวจพิสูจน์ เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาดูประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ทีละประเด็น โดยตัดผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปทีละคนทีละประเด็น ไม่ได้เฉพาะเจาะจงจำเลย ซึ่งครั้งแรกจำเลยก็เป็น 1 ในนั้นที่ต้องสงสัยแต่เมื่อยังไม่ชัดเจนจึงยังไม่ถูกดำเนินคดี กระทั่งตรวจดีเอ็นเอจากเยื่อบุกระพุ้งแก้มจำเลย ตรงกับการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงไม่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อปรักปรำจำเลย เพราะในการสอบสวนต้องใช้เวลา บุคคลากรจำนวนมาก รวมทั้งงบประมาณ ข้อฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงฟังไม่ขึ้น

“นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล” โฆษกศาลยุติธรรม ได้กล่าวถึงกระบวนการอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีนี้ว่า การอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้ เป็นการอ่านคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่มีการเผยแพร่ภาพและเสียง ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรน มายัง “ศูนย์อำนวยความยุติธรรมอิเล็กทรอนิกส์” (E-Justice Conference Center) ชั้น 6 อาคารศาลอาญา ที่สำนักงานศาลยุติธรรมจัดให้มีล่ามแปลภาษาพม่า เพื่อแปลภาษาให้จำเลยได้ฟังอย่างเข้าใจถึงผลคำพิพากษา

ซึ่งการจัดหาล่ามแปลภาษานั้น ถือเป็นมาตรการของ “สำนักงานศาลยุติธรรม” ที่ให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นชาวต่างชาติ โดยในวันนี้เป็นการแปลภาษาผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนถือเป็นการอำนวยความยุติธรรมในยุคก้าวสู่ศาลดิจิทัล หรือ D-Court