สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา ขึ้นศาลในจีน ฟันอาญา 11 กระทง

สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมาตอนเหนือ ขึ้นศาลในจีน ฟันอาญา 11 กระทง ชี้ อาชญากรรมพุ่งเป้าไปที่พลเมืองจีน มีชาวจีนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 6 ราย

ศาลท้องถิ่นเมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน พิจารณาคดีความกับจำเลยทั้งหมด 23 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกหลักกลุ่มฉ้อโกงทางโทรคมนาคม (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) ขนาดใหญ่หลายกลุ่มในภาคเหนือของเมียนมา วันที่ 14-19 ก.พ. โดยมีการพิจารณาหลายข้อหา รวมถึงอาชญากรรมที่ทำให้พลเมืองจีนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 6 ราย

จำเลยส่วนหนึ่ง ได้แก่ เมียง มยิ่น ชอน พยิ่น และมะ ทิริ เมียง หัวหน้าแก๊งอาชญากรรมที่นำโดยครอบครัวของพวกเขา รวมถึงสมาชิกหลักของแก๊งและสมาชิกแก๊งอื่น ๆ ที่เป็นผู้สนับสนุนการก่ออาชญากรรม โดยถูกตั้งข้อหาอาญา 11 กระทง เช่น ฉ้อโกง, เจตนาฆ่า, เจตนาทำร้ายร่างกาย, กักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฎหมาย, เปิดกาสิโน รวมถึงค้ายาเสพติดและค้าประเวณี

คณะอัยการกล่าวว่า จำเลยใช้ประโยชน์จากอิทธิพลของครอบครัวในพื้นที่ตอนเหนือของเมียนมา จัดตั้งแหล่งซ่องสุมแก๊งอาชญากรรมหลายแก๊ง สมรู้ร่วมคิดในการก่ออาชญากรรมต่าง ๆ เช่น ฉ้อโกงทางโทรคมนาคม มีเป้าหมายเป็นประชาชนในจีน โดยอาชญากรรมการพนัน และการฉ้อโกง เกี่ยวพันกับเงินทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวน (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้พลเมืองจีนเสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บ 6 ราย

เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นวันที่ 20 ต.ค. 66 แก๊งอาชญากรรมร่วมมือกับผู้สนับสนุน จัดการคุ้มกันด้วยอาวุธระหว่างโยกย้ายคนที่ทำงานให้แก๊งเพื่อหลีกหนีการปราบปราม บางคนพยายามหลบหนีแต่ถูกทีมคุ้มกันยิงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย

นอกจากการพิจารณาคดีความครั้งนี้ มีการสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวพันกับกลุ่มอาชญากรรมอีกหลายพันราย เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับคดีฉ้อโกงทางโทรคมนาคมมากกว่า 10,000 คดี นอกจากนี้ แหล่งข่าวอัยการระบุว่าอาชญากรรมบางส่วนเกิดขึ้นภายในพรมแดนจีน มุ่งเป้าที่พลเมืองจีนเป็นพิเศษ สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ร่วมของประชาคมระหว่างประเทศ ทำให้จีนมีอำนาจการพิจารณาคดีความภายใต้กฎหมายอาญาและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว