สตาร์ตอัปจีน นำเทรนด์ AI มาพัฒนาวงการของเล่น ทำให้ของเล่นเก่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

‘ของเล่น AI’ กำลังเป็นกระแสฮิต ด้านบริษัท และสตาร์ตอัปจีน นำเทรนด์พัฒนาวงการของเล่น ทำให้ของเล่นเก่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ปัจจุบันสมาร์ตโฟนเอไอ คอมพิวเตอร์เอไอ แว่นตาเอไอ และสินค้าเอไออื่น ๆ กลายเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงของผู้ผลิตเทคโนโลยี เนื่องจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน หลายบริษัทได้พัฒนาของเล่นด้วยระบบ AI จนเกิดเป็นกระแสนิยมใหม่ ดึงดูดให้บริษัทและสตาร์ตอัปในตลาดหุ้น A-share ของจีนเข้ามาแข่งขัน

บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) พัฒนาตุ๊กตาของเล่น สามารถโต้ตอบและสื่อสารทางอารมณ์ได้ ทั้งยังผสานเทคโนโลยีโมเดลขนาดใหญ่ ทำราคาขายบนแพลตฟอร์มซื้อขายมือสองทะยานสูงถึงหลายร้อยหยวน ด้านบริษัทเทสลา (Tesla) วางขายหุ่นยนต์ของเล่น (Tesla Bot Action Figure) โดยมีราคาอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,376 บาท) เป็นหุ่นยนต์ออพติมัส เจน 2 (Optimus Gen2) รุ่นมินิ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของบริษัท สร้างขึ้นในอัตราส่วน 1:10 มีชิ้นส่วนมากกว่า 40 ชิ้นและข้อต่ออีก 20 ชิ้น

อุตสาหกรรมของเล่นเอไอยังดึงดูดให้บริษัทสตาร์ตอัปหลายแห่งเข้ามาแข่งขันในตลาด โดยไฮวีวี (Haivivi) บริษัทเทคโนโลยีในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ได้ผลิตตุ๊กตาของเล่นที่เรียกว่าบับเบิลพาล (BubblePal) ซึ่งสามารถพูดคุยกับมนุษย์ได้ โดยยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567

ตัวแทนจากบริษัทสือเฟิง คัลเจอรัล ดีเวลลอปเมนต์ (Shifeng Cultural Development Co., Ltd.) ของจีน กล่าวว่า สิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการไม่ใช่แค่หุ่นยนต์พูดได้ แต่เป็นคู่หูที่เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาและสร้างสายใยทางอารมณ์ที่ลึกซึ้ง การนำโมเดลขนาดใหญ่มาใช้จึงช่วยทำให้ของเล่นแบบเก่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว