บุญถาวร จับมือ Google Cloud ใช้ Generative AI ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าและช่วยพนักงาน

Google Cloud และบุญถาวร ประกาศการเริ่มใช้ความสามารถด้าน Generative AI และการจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้บุญถาวรขับเคลื่อนการเติบโตสู่การเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยในด้านการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยการใช้ Cloud AI ชั้นนำของ Google Cloud นำร่องแชทบอท AI ช่วยให้ผู้ขายค้นหาข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์และสถานะคำสั่งซื้อภายในไม่กี่วินาที

หทัยวุฒิ ทวีวโรดมกุล รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีสารสนเทศ บุญถาวร กล่าวว่า การนำ Generative AI มาใช้เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน จำเป็นต้องสร้าง ทดสอบ และปรับปรุงแนวคิดใหม่ ๆ ด้วยเทคโนโลยีให้ได้อย่างมีกลยุทธ์และรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่ง Google Cloud ไมอบเครื่องมือและทรัพยากร Generative AI ที่ใช้งานง่ายและผสานรวมกับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทีมสามารถจัดการกับการใช้งานที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย

บุญถาวรใช้ Vertex AI ทำให้พนักงานสามารถค้นหาข้อมูลได้รวดเร็วและลดความซับซ้อน เพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยบุญถาวรเริ่มพัฒนาแชทบอทที่ช่วยให้ผู้ขายค้นหาข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์และสถานะคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที แทนที่จะต้องค้นหาลำดับรายการแคตตาล็อกหรือธุรกรรมหลายพันรายการด้วยตนเอง

นอกจากนี้ แชทบอทของบุญถาวรยังช่วยให้พนักงานสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องภายใน เช่น นโยบายด้านทรัพยากรบุคคลและไอที ได้รวดเร็ว รวมถึงให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้จัดการเกี่ยวกับตัวชี้วัดทางธุรกิจที่สำคัญ โดยขณะนี้บุญถาวรกำลังสำรวจการใช้ Vertex Retail Search and Recommendation AI ซึ่งไม่เพียงให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคลตามประวัติการซื้อของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังแนะนำลูกค้าในการออกแบบและแสดงภาพบ้านหรือห้องโดยผสมผสานจากแค็ตตาล็อกของบริษัท

ในคลังสินค้า บุญถาวรจะใช้โมเดล Gemini ของ Google เพื่ออ่านและส่งข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อไปยังระบบ ERP ที่มีอยู่โดยอัตโนมัติ ช่วยเร่งการดำเนินการตามคำสั่งซื้อและลดอัตราข้อผิดพลาดได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการจัดการเอกสารด้วยตนเอง โดย Gemini ส่งข้อมูลไปให้กับโซลูชั่น ERP และ Robotic Process Automation (RPA) ของบุญถาวรโดยตรง เพื่อลดเวลาการทำงานและต้นทุนในห่วงโซ่อุปทานของผู้ค้าปลีก

บุญถาวรเริ่มย้ายคลังข้อมูลองค์กรจากโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กรไปยัง Google Cloud โดยจะใช้ BigQuery ในการจัดเก็บข้อมูลและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Generative AI อย่างเหมาะสม รวมถึงใช้ Cortex เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่มาจากระบบ ERP อย่างเต็มรูปแบบและมีประสิทธิภาพ

อรรณพ ศิริติกุล ผู้อำนวยการ Google Cloud ประเทศไทย กล่าวว่า บุญถาวรกำลังสร้างข้อได้เปรียบให้กับตัวเองเป็นรายแรก เพราะตระหนักดีว่า Generative AI จำเป็นต้องมีระบบนิเวศคลาวด์ที่ไร้รอยต่อเพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุด โดยในเวลาเพียงหนึ่งปี บุญถาวรพัฒนากลยุทธ์และกระบวนการที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับ Generative AI ที่ให้โซลูชันในโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับพนักงานและลูกค้า