‘ชัชชาติ’ เผย มีความหวังเล็ก ๆ หลังทีมกู้ภัยพบเสียงตอบรับขณะเข้าค้นหา คาดเป็นเสียงผู้หญิง ได้ยินเสียงร้อง “ช่วยด้วย”

พร้อมสั่งหยุดใช้เครื่องจักรหนักถึงบ่ายโมง เร่งระดมทีมเจ้าหน้าที่เจาะโพรงลึก 3 เมตร เข้าช่วยเหลือ มอง มาถูกทางแล้ว เจอบันไดหนีไฟ เชื่อ เป็นจุดที่ผู้สูญหายรวมอยู่
วันนี้ (3 เม.ย. 68) เวลา 09:00 น. ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. และ น.ส.ภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร แถลงความคืบหน้าการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มลงมา โดยนายชัชชาติ เปิดเผยถึงเหตุผลที่หยุดการใช้เครื่องจักรหนัก เนื่องจากวานนี้ (2 เม.ย.) ตามยุทธวิธี ได้ใช้เครื่องจักรหนักลงกุยทางเข้าไปตั้งแต่ 18.00-21.00 น. และให้ทีมค้นหาทั้งคน และสุนัข K-9 เข้าไปในพื้นที่อาคาร
เวลา 22.00 น. มีทีมกู้ภัยเข้าไปในโพรงตะโกนเรียกผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก และได้ยินเสียงตอบกลับออกมาเบา ๆ เพื่อนในทีมกู้ภัยอีกคนไปฟังก็ได้ยินเหมือนกัน เข้าใจว่าเป็นเสียงผู้หญิง ซึ่งได้ใช้เครื่องสแกนตรวจสอบพบร่องรอยของร่างกายอยู่ เมื่อใช้เครื่องโซน่าที่เป็นเครื่องฟังสัญญาณเสียงหย่อนลงไป โดยแจ้งว่าหากได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ให้เคาะกลับมา ซึ่งก็ได้ยินเคาะตอบกลับ
นอกจากนี้ เมื่อวานเป็นวันที่เจอทางหนีไฟชัดเจน และคนที่เจอสัญญานชีพก็อยู่ที่บริเวณจุดนี้ เมื่อคืนจึงเป็นการเริ่มกระบวนการกู้ภัยตลอดคืนโดยใช้การตัดแผ่นปูนยกออกไปได้ 3 แผ่น ขนาดรวมกว่า 60 ตัน และใช้มือขุดลงไปในความลึกประมาณ 3 เมตร ดำเนินการต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าจึงหยุดใช้เครื่องมือหนักเพราะเกิดการสั่นไหว และเป็นอันตรายสำหรับการทำงานในโซน B รวมถึงต้องใช้ความเงียบในการฟังเสียงของผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่
สำหรับจุดที่คาดว่าจะเจอผู้สูญหาย และมีโอกาสรอดชีวิต จะเป็นโซน B อยู่ใกล้อาคารจอดรถด้านหลัง ซึ่งโซน B และ C เป็นจุดหน้าที่โฟกัสการค้นหาตั้งแต่แรก รวมถึงจุดที่เจอสัญญาณชีพเป็นโซน B ที่ตอนนี้พบบันไดหนีไฟแล้ว
“บันไดหนีไฟนี้ เป็นจุดที่ตามหามานาน บันไดหนีไฟคือหัวใจสำคัญที่เจ้าหน้าที่เร่งกู้ภัย และเร่งตามหา หากมีผู้รอดชีวิตหรือผู้เสียชีวิตก็จะอยู่ที่บริเวณนี้ และพยายามที่จะทำโพรงเพื่อเข้าไปด้านใน ทั้งนี้ อย่าเพิ่งไปคาดหวังมาก แต่ก็ถือว่าเป็นความหวังเล็ก ๆ ที่เราพยายาม และทำกันทั้งคืน หวังว่ามีปาฏิหารย์เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เกิด อย่าเพิ่งหวังเยอะ“ นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ได้เจาะรูให้เป็นโพรงหลังจากยกแผ่นปูนออกไป 3 ชิ้นแล้ว และหากเข้าไปจุดนี้ได้จะมีหน่วยแพทย์พยาบาลเข้าไปให้การช่วยเหลือ ซึ่งมีแพทย์ของทหาร และตำรวจ สแตนบายไว้พร้อมแล้ว และเตรียมแผนรับรองไว้ในกรณีที่เกิดขั้นที่แย่ที่สุดด้วย เจ้าหน้าที่พยายามทำเต็มที่ ไม่อยากให้ตั้งความหวัง คนอาจจะเห็นว่าหยุดทำงาน แต่อยากให้เข้าใจว่าเราทำงานอยู่ ต้องหยุดเพราะไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือนจากการใช้เครื่องจักรหนัก
“สมมุติว่าหากเจอผู้รอดชีวิตก็จะต้องเข้าสู่การให้น้ำเกลือ และการให้โพแทสเซียมเข้าสู่ร่างกาย และเมื่อวานนี้ก็มีการชี้จุดวางจุดที่น่าจะมีสัญญาณชีพอยู่ ทำให้เชื่อว่าเรามาถูกทางแล้วในการเอาของหนักออก เดินหน้าเข้าไปค้นหา ซึ่งสามารถสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในระดับหนึ่ง และมีความหวังเล็ก ๆ ที่ทำให้เราก้าวต่อไปได้” นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ ระบุอีกว่า ก่อนแถลงข่าวมีเจ้าหน้าที่บอกได้ยินเสียงเบา ๆ ว่า “ช่วยด้วย” แต่ตนเองไม่แน่ใจ ถือเป็นความหวังเล็ก ๆ ที่จะต้องเร่งดำเนินการ และเจ้าหน้าที่มีตัวเลขข้อมูลของคนที่ทำงานอยู่ในแต่ละชั้น ชั้นบนสุดก็มีผู้รอดชีวิตที่พบกระเด็นออกมาไม่ได้โดนทับ เชื่อว่าถ้าเจอคนรอดชีวิตก่อนหน้านี้ที่บริเวณจุดไหนจะทำให้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ว่าจะไปเจอผู้สูญหายอยู่ในจุดเดียวกันได้
อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถจำแนกได้ว่าชั้นไหนมีใครรอดชีวิตบ้าง เพราะตึกถล่มลงมาก็จะรวมเป็นชั้นเดียว แต่หากดูตามแปลนของอาคาร ทุกคนจะไปรวมอยู่ที่บันไดหนีไฟรวมถึงชั้น 5 ที่มีทางเชื่อมไปยังอาคารด้านหลังที่เป็นที่จอดรถ ซึ่งอาจจะติดอยู่ทางเชื่อมอาคารจอดรถได้
ส่วนการรื้อถอน และการเปิดพื้นที่ ต้องประเมินตามหน้างาน หากเจอเหล็กตัด เจอคอนกรีตก็กระแทก และยกเอาออก ขั้นตอนอาจจะไม่ได้เร็วเหมือนกับที่หลายคนคาดหวังที่จะนำแบล็กโฮมาลุยเจาะได้ทันที ต้องงทำไปชิ้นต่อชิ้น ไม่เช่นนั้นจะเกิดอันตรายกับผู้ที่ติดอยู่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มือโกยหินก้อนต่อก้อน เพราะตอนแรกเข้าใจว่ายกปูนแผ่นแรกแล้วจะเจอโพรง แต่พอเปิดแผ่นแรกออกมาก็เจอแผ่นที่สอง และแผ่นที่สาม ที่มีลักษณะการทับซ้อนแบบแพนเค้ก
เมื่อเปิดแผ่นที่สามแล้วก็เริ่มมีลักษณะของการเป็นโพรง และสามารถหาช่องในการเจาะลงไปได้ด้านล่างได้ แต่ระหว่างทางที่เจาะลงไปจะมีเหล็กจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ เพราะเครื่องสแกนพิกัดเรดาห์ระบุว่า ต้องเจาะลึกลงไปอีกประมาณ 10 ฟุต หรือประมาณ 3 เมตร
นายชัชชาติ ยืนยันว่า ทีมกู้ภัยทุกคนมีกำลังใจในการทำงาน และมีแต่คนต่อคิวเมื่อขอกำลังเข้าไปปฏิบัติงาน เพราะทุกคนอยากจะเข้าไปช่วยเหลือ ยอมรับว่ากังวลเรื่องฝนตก จึงให้เตรียมผ้าสแลนกันฝน และกันแดดด้วย รวมถึงให้เตรียมเครื่องมือตัดถ่าย กระแทกคอนกรีตขนาดใหญ่ขึ้นให้พร้อม ฝนที่ประเมินไม่น่าหนักมาก แต่ก็เป็นข้อดีที่ทำให้ลมเย็นขึ้น จะทำให้คนปฏิบัติทำงานได้สบายขึ้น
วานนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบลักษณะเป็นโพรงอีกหนึ่งจุด ซึ่งสุนัข K-9 ได้ส่งสัญญานนั่งแล้วเห่าอยู่ที่บริเวณจุดนี้ด้วย โดยจุดนี้ก็เจอสัญญาณชีพ และอาจจะเป็นโพรงที่เชื่อมโยงกันกับจุดที่มีเสียงตอบรับก็ได้ เพราะไม่ไกลกันมาก แต่พอเจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปก็ติด จึงต้องใช้กล้องส่องเข้าไป แต่ก็ยังไม่พบอะไรเพิ่มเติม
สำหรับข้อมูลของแต่ละชั้นบน จากชั้นบนสุดที่เป็นชั้นดาดฟ้า มี 5 คน, ชั้น 29 มี 14 คน, ชั้น 28 มี 4 คน, ชั้น 26 มี 6 คน, ชั้น 25 มี 3 คน, ชั้น 24 มี 4 คน, ชั้น 23 มี 2 คน, ชั้น 22 มี 7 คน, ชั้น 21 มี 4 คน, ชั้น 19 มี 3 คน, ชั้น 11 มี 4 คน, ชั้น 10 มี 6 คน, ชั้น 6 มี 2 คน และชั้น 5 มี 9 คน