TECH

ย้อนเวลาทะลุมิติ ดูความเปลี่ยนแปลงจาก Samsung Galaxy S ถึง The New Galaxy

Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงที่ใช้ Android รุ่นแรกคือ Samsung Galaxy S ในเดือนมีนาคม 2010 และต่อยอดจนกลายเป็นมือถือยอดนิยมที่แข่งขันกับ iPhone และสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ โดยอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ เทคโนโลยี ฟังก์ชั่นที่ใช้งานง่าย และผู้ใช้หลงรัก ซึ่งยอมรับว่า ผู้ใช้ชื่นชอบ Samsung เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ หน้าจอสวย และการใช้งานง่าย

สำหรับรุ่นล่าสุด ที่เตรียมจะเปิดตัวในงาน The Epic Standard: Galaxy Unpacked ทางออนไลน์ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ หลายคนคาดว่าจะใช้ชื่อ Galaxy S22 ต่อจากรุ่นก่อนหน้านี้ คือ Galaxy S21, Galaxy S21+ และ Galaxy S21 Ultra เปิดตัวในปี 2021

จาก Samsung Galaxy S (ปี 2010) จนถึง Samsung Galaxy S21 (ปี 2021)

ก่อนจะถึงการเปิดตัวของ The New Galaxy เรามาย้อนเวลาดูความเปลี่ยนแปลงของ Samsung Galaxy S series กัน

Samsung Galaxy S

วางจำหน่ายเดือนมิถุนายน 2010 โดย Samsung Galaxy S รันบน Android 2.1 หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด 800 x 480 ใช้ชิป single-core 1GHz แรม 0.5GB กล้องหลัง 5MP ส่วนกล้องหน้า 0.3MP ยุคนั้นเรายังไม่ Selfie กันเยอะขนาดนี้ ข้อดีของ Samsung คือมี TouchWiz เป็นหน้าตา UI ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy S

Samsung Galaxy S II

ปรับดีไซน์จากรุ่นแรก และใช้ชื่อรุ่นเป็นเลขโรมัน Samsung Galaxy S II เปิดตัวในเดือนเมษายน 2011 หน้าจอความละเอียด 800 x 480 ชิป Dual-Core 1.2GHz เพิ่มแรมเป็น 0.75GB ปรับกล้องหลังเป็น 8MP กล้องหน้า 2MP ตอนนั้นGalaxy S II ออกมาแข่งกับ HTC

Samsung Galaxy S III

Samsung Galaxy S III ยังใช้ชื่อรุ่นเป็นเลขโรมัน เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2012 เป็นรุ่นแรกที่ใช้จอแบบ HD ความละเอียดดีขึ้น 1280 x 720 พิกเซล รัน Android 4.0 Ice Cream Sandwich ชิป Quad-Core 1.4GHz มาพร้อมแรม 1GB กล้องหลัง 8MP รุ่นนี้ปรับดีไซน์สวยขึ้น และไม่เหมือนใครในยุคนั้น

Samsung Galaxy S4

ยุติการใช้เลขโรมันเรียกเป็นชื่อรุ่น โดยเปิดตัวในเดือนเมษายน ปี 2013 มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว แบบ Full HD ชิปแรง Quad-Core 1.9GHz และแรม 2GB ถือว่าล้ำมากในยุคนั้น กล้องหลังนี่สร้างความฮือฮา 13MP เรียกได้ว่า Galaxy S4 ถูกพูดถึงและขายดีในยุคนั้น ถือว่า Samsung มาถูกทาง

Samsung Galaxy S5

เปิดตัว เดือนเมษายน 2014 โดย S5 ใช้จอ Full HD จอใหญ่ 5.1 นิ้ว มีรุ่น LTE-A รองรับ 4G จอความละเอียด 2560 x 1440 ชิป Quad-Core 2.5GHz แรม 2GB กล้องหลัง 16MP

พัฒนาการด้านกล้องหลัง และการวางตำแหน่งกล้อง จาก Galaxy S – Galaxy S21

Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge

เปิดตัวในเดือนเมษายน 2015 โดยมีการแตกรุ่น Galaxy S6 หน้าจอแบน 2560 x 1440 Quad HD Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว ส่วนหน้าจอขอบโค้ง Galaxy S6 Edge และ S6 Edge Plus เป็นจุดกำเนิดของมือถือจอโค้งในยุคนั้น ใช้ชิป Octa-Core แรม 3GB กล้องหลัง 16MP บันทึกวีดีโอแบบ Ultra HD กล้องหน้า 5MP ตัวเครื่องใช้โครงสร้างแบบ Unibody ก็เลยถอดฝาหลังเองไม่ได้ง่ายๆ แบบรุ่นก่อนๆ

Samsung Galaxy S7 และ Samsung Galaxy S7 edge

เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 หน้าจอ 5.1 นิ้ว แบบ QHD display (2560 x 1440) มีรุ่นจอแบน กับจอโค้ง กล้องหลังคู่ Dual-Pixel 12MP ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี ชิป Octa-Core รองรับ Samsung Pay ผ่านแม่เหล็ก NFC ส่วน Samsung Galaxy S7 edge จอโค้ง ขนาด 5.5 นิ้ว Dual Edge QHD display ดีไซน์ดูโค้งมนเพราะใช้จอขอบโค้ง

Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+

เปิดตัวไปในปี 2017 เป็นรุ่นแรกที่ใช้จอ Infinity Display ที่ไร้ขอบ ไร้กรอบ และมีรุ่น S8 Plus จอใหญ่กว่า แบตเยอะกว่า ตัวเครื่องดูบางและแบนลงกว่าเดิม

Samsung Galaxy S9

เปิดตัวในปี 2018 ดูหน้าตาคล้ายกับ S8 ยังคงมาพร้อมจอโค้ง ขนาด 5.8 นิ้ว แบบ OLED กันน้ำ waterproof โดยจุดเด่นของ Galaxy S9 คือ AR emoji สร้าง 3D avatar โดยสแกนใบหน้าของเรา ทำ emoji ส่วนตัวได้ ใช้ได้กับ WhatsApp และ Facebook Messenger ได้ นอกจากนี้ยังมี Samsung Galaxy S9+ กล้อง Dual Aperture ปรับตามแสงได้เหมือนสายตาของมนุษย์

Samsung Galaxy S10

ถัดมาที่ปี 2019 มาพร้อมกัน 3 รุ่น Samsung Galaxy S10e, Samsung Galaxy S10 กับ S10+ ใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ UltraSonic มี 3 กล้องหลัง กล้องหน้าแบบ punch hole รองรับการชาร์จไร้สาย และ wireless reverse charging ชาร์จอุปกรณ์อื่นแบบไร้สายได้ เช่น ชาร์จมือถือเครื่องอื่น นาฬิกา หูฟังได้แบบสบายๆ

Samsung Galaxy S10 โทรได้ ชาร์จอุปกรณ์อื่นก็ได้

Samsung Galaxy S20

ใช้ชื่อรุ่นขึ้นเลข 2 แทนแล้ว ในปี 2020 ชื่อรุ่น Samsung Galaxy S20 และยังมี S20+ กับ S20 Ultra หน้าจอ Infinity Display ไร้กรอบ กล้องหน้า punch-hole ตรงกลางหน้าจอ ขนาดหน้าจอ S20 และ S20+ คือ 6.2 นิ้ว และ 6.7 นิ้วตามลำดับ จอ Quad HD+ (3200 x 1440) รองรับ refresh rate 120Hz สแกนนิ้วบนหน้าจอ กล้อง S20+ มี Time-of-Flight (กล้อง ToF) ทำหน้าที่สำหรับตรวจจับความลึกของวัตถุ รุ่นนี้รองรับ 5G เป็นรุ่นแรก

อีกรุ่น Samsung Galaxy S20 Ultra จอใหญ่ 6.9 นิ้ว Quad HD+ (3200 x 1440) รองรับ 120Hz มีเซ็นเซอร์ Time-of-Flight กับกล้องความละเอียด 108MP กล้อง 48MP 10x telephoto และ 12MP ultra wide สามารถซูม 100x แบบ Space Zoom แต่ควรใช้ขาตั้งกล้อง

Samsung Galaxy S20 FE

รุ่นราคาน่าคบหา ย่อมาจากคำว่า Fan Edition เอาฟีเจอร์ของ S20 ที่เด่นๆ มาให้ใช้ ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า จอแบน แต่บอกเลย สเปคคุ้ม มีรุ่น 4G และรุ่น 5G

Samsung Galaxy S21 รุ่นล่าสุดก่อนการเปิดตัวรุ่นใหม่วันที่ 9 ก.พ. นี้

Samsung Galaxy S21

ปี 2021 รองรับ 5G มีรุ่น Samsung Galaxy S21, S21+ และ S21 Ultra ราคาถูกกว่ารุ่น S20 ของปี 2020 นิดหน่อย กล้องหลังดีไซน์แบบ Flush Camera Housing โดยโมดูลกล้องหลังรวมเป็นเนื้อเดียวกับเฟรมเครื่อง จอแบบขอบโค้ง Edge Infinity-O เจาะรูกล้องตรงกลางหน้าจอ จอ 120Hz และเปลี่ยนมาใช้วัสดุฝาหลังพลาสติก แต่ยอมรับว่าดีไซน์สวยจริง

Samsung Galaxy S21 FE

เพิ่งออกมาได้ไม่นานมานี้ หยิบฟีเจอร์เด่นมาจาก Galaxy S21 กล้องหลังวางดีไซน์คล้ายกัน แต่ใช้สีเดียวกับตัวเครื่อง สีเขียวโอลีฟ, สีม่วงลาเวนเดอร์, สีขาว และสีดำแกรไฟต์ หน้าจอ 120Hz

จนมาล่าสุด ปี 2022 นี้กับ The New Galaxy ที่เตรียมเปิดตัวในงาน The Epic Standard: Galaxy Unpacked วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ฟีเจอร์เด่นที่จะมาเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนครั้งนี้ น่าจะเน้นที่การถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอที่คมชัด สว่างสดใส พร้อมดีไซน์โดนใจตามสไตล์ของซัมซุง แต่จะมีฟีเจอร์เด็ด ฟีเจอร์พิเศษโดนใจอะไรบ้าง รอติดตามก่อนใครได้ที่ The Reporters

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat