เจาะจุดเด่น ฟีเจอร์ iPhone SE รุ่นใหม่ น่าซื้อหรือเปล่า
iPhone SE รุ่นใหม่ หรือ iPhone SE 2022 มาพร้อมสโลแกน “รักทั้งความแรง รักทั้งความคุ้มค่า” เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า 18 มีนาคมนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น. และเริ่มวางจำหน่าย 25 มีนาคมนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท มีอะไรที่ขาดหายไป อะไรที่น่าสนใจบ้าง
บนเว็บไซต์ Apple บอกเล่าความเป็น iPhone SE รุ่นใหม่ว่า ชิปเร็ว แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น การเชื่อมต่อ 5G เร็ว การออกแบบ กล้อง ปุ่มโฮมที่คุ้นเคย หากคุณอยากได้มือถือเล็กๆ จอ 4.7 นิ้ว ใส่กระเป๋า พกพาสะดวก iPhone SE เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ขนาดอาจจะเล็กไปนิดสำหรับบางคน แต่ด้วยชิป A15 Bionic ถอดมาจาก iPhone 13 ทำให้หลายๆ คนสนใจกับราคาเริ่มต้นหมื่นกลาง แต่ได้ประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 1.2 เท่า เมื่อเทียบกับ iPhone SE รุ่นที่ 2
ส่วนระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่นั้น เมื่อใช้ชิปที่ประหยัดพลังงานขั้นสูง พร้อมแบตเตอรี่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และรันบน iOS 15 ส่งผลให้ใช้งานได้ยาวๆ และ iPhone SE รองรับการชาร์จแบบไร้สายด้วย ยิ่งสะดวก และรองรับ หัวชาร์จ หรืออะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 20W ชาร์จเร็ว จาก 0 จนถึง 50% ได้ในเวลา 30 นาที (ขายแยก)
ส่วนเรื่อง 5G นับว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นของ iPhone ที่รองรับ 5G (iPhone SE รุ่นที่ 2 ไม่รองรับ 5G) แต่กับหน้าจอขนาดนี้ ตัวเครื่องขนาดนี้ หากรองรับ 5G ล้ำๆ ก็คงทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วได้เหมือนกัน ส่วน 5G ถ้าอยากใช้เต็มที่ น่าจะไปใช้รุ่นอื่น
ส่วนกล้องนั้น ยอมรับเลยว่าสุด รองรับ HDR ใหม่, Deep Fusion วิเคราะห์ค่าแสง, กำหนดโทนสีภาพถ่าย, โหมดภาพถ่ายบุคคล, เอฟเฟ็กต์แสงถ่ายภาพบุคคล เรียกได้ว่า หยิบเอากล้องของ iPhone 13 มาให้ใช้เลย รวมถึงวีดีโอนิ่งๆ รองรับ Slow-motion และ Time-lapse
ส่วนการปลดล็อคหน้าจอ ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่ Mask หรือหน้ากากอนามัยเลย เพราะใช้ปุ่มโฮมที่เราคุ้นเคยกับ Touch ID สแกนนิ้ว
iPhone SE 2022 มาในสี มิดไนท์ สตาร์ไลท์ และรุ่น (PRODUCT) RED สำหรับราคาเครื่องเปล่า 64GB ราคา 15,900 บาท 128GB ราคา 17,900 บาท และ 256GB ราคา 21,900 เท่าๆ กับรุ่นก่อนหน้านี้ และต้องเผื่องบไว้ซื้ออะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 20W ด้วย ราคา 690 บาท เพราะในกล่องมีแค่ iPhone กับสายชาร์จ USB-C เป็น Lightning เท่านั้น (ย้ำว่าขั้วของหัวชาร์ต้องเป็น USB-C) ส่วนหูฟังหา True Wireless มาใช้ หรือหาหูฟังแบบ Lightning มาใช้ก็ 690 บาท ถ้าถามว่า หน้าจอ 4.7 นิ้วเล็กไป จะไปเอา iPhone 13 mini แทนดีไหม ก็ต้องบอกว่าราคาไม่เหมือนกัน ถ้าอยากได้ก็ซื้อ iPhone 13 mini ความจุ 128GB ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท ซื่งในราคาใกล้เคียงกัน คุณจะได้ iPhone SE 2022 บนความจุ 256GB เลย ก็ลองดูว่างบเท่าไหร่ เหมาะกับคุณหรือเปล่า
ปิดท้ายกับคำแนะนำของผู้เขียนคือ อยากให้ไปลองจับตัวเครื่องที่ช้อป ก่อนซื้อ เพราะด้วยความที่หน้าจอ 4.7 นิ้ว อาจจะไม่ถนัดสำหรับบางคน ซึ่งผู้เขียนเองก็เคยซื้อ iPhone SE 2020 (รุ่นที่ 2) ใช้ไม่กี่เดือนก็เปลี่ยนเนื่องจากพิมพ์ไม่ถนัดมือ จริงอยู่ว่าพกสะดวก แต่บน iPhone 13 mini หน้าจอ 5.4 นิ้วพิมพ์สะดวกกว่า ลองไปจับด้วยมือคุณเองก่อนซื้อจะดีกว่า
