TECH

Mastercard เปิดตัว AI บล็อคการฉ้อโกงทางการเงิน ช่วยจับพิรุจการใช้จ่ายผิดปกติแบบเรียลไทม์

มาสเตอร์การ์ด เปิดตัว AI เวอร์ชันล่าสุด เพื่อบล็อคการฉ้อโกงทางการเงินแบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมได้ แบบบัญชีต่อบัญชี (account-to-account) ช่วยให้ธนาคารสามารถคาดการณ์ และป้องกันการทำธุรกรรม จากสแกมเมอร์ในทุกรูปแบบ ด้วยการใช้ข้อมูลการทำธุรรรมทางการเงินแบบสเกลใหญ่ เพื่อช่วยตรวจสอบและระงับการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ของเหล่าสแกมเมอร์แบบเรียลไทม์ ก่อนที่เงินของเหยื่อจะถูกยักยอกไป ปัจจุบันมีธนาคาร 9 แห่งในอังกฤษที่เข้าร่วมในระบบนี้ ได้แก่ Lloyds Bank,Halifax,Bank of Scotland, NatWest, Monzo และ TSB

นาย อาเจย์ บัลลา ประธานฝ่าย Cyber and Intelligence มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “เนื่องจากมิจฉาชีพเหล่านี้ จะทำการโอนเงินที่ฉ้อโกงมาได้ไปยัง “บัญชีม้า” เพื่ออำพรางเงินและป้องกันการตรวจสอบ ทำให้ตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้ มาสเตอร์การ์ดได้ทำงานร่วมกับธนาคารทั้ง 9 แห่งเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา ด้วยการติดตามความเคลื่อนไหวของเงิน ไปจนถึงบัญชีปลายทางต้องสงสัยและปิดบัญชีเหล่านี้ลง และด้วยข้อมูลการติดตาม การเดินเงินเหล่านี้เอง ที่ช่วยให้ระบบของมาสเตอร์การ์ด สามารถจัดระดับความเสี่ยงการทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง โดยวิเคราะห์จากหลายปัจจัย อาทิ ชื่อบัญชี จำนวนเงินที่โอน ประวัติธุรกรรมของผู้โอนและผู้รับ และอัตราความเป็นไปได้ ของบัญชีผู้รับเงินที่อาจเกี่ยวข้องกับการทำโจรกรรม ซึ่งการทำงานอย่างละเอียดและเป็นระบบ AI ของมาสเตอร์การ์ดนี้เอง ที่เป็นตัวช่วยให้หลายธนาคาร สามารถระงับการทำธุรกรรมที่ต้องสงสัย ได้แบบเรียลไทม์ก่อนที่เงินของเหยื่อจะสูญหายไป”

“หนึ่งในธนาคารที่เข้าร่วมใช้งานระบบ Consumer Fraud Risk ของมาสเตอร์การ์ด คือ TSB ผู้ได้รับผลลัพท์อันยอดเยี่ยม จากการใช้งานระบบโซลูชันนี้ โดยผลลัพธ์จากการใช้งานระบบเพียงสี่เดือนของ TSB สามารถตรวจจับธุรกรรมฉ้อฉลเป็นจำนวนมากขึ้น และมาสเตอร์การ์ดคาดการณ์ว่า หากธนาคารอื่นที่ใช้งานระบบโซลูชันส์ สามารถตรวจจับและสกัดการโอนเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทียบเท่าธนาคาร TSB จะทำให้ธนาคารทั่วประเทศอังกฤษ สามารถสกัดการโอนเงินโจรกรรมได้มูลค่ามากเกือบ 100 ล้านปอนด์ ภายในเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ภายในปี 2023 จะมีธนาคารอื่นๆ เข้ามาร่วมใช้งานระบบ เพื่อร่วมสกัดการทำงานของอาชญากร และมาสเตอร์การ์ดเอง ยังมีแผนที่จะขยายบริการนี้ไปยังประเทศอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย”

“ในขณะนี้ระบบรักษาความปลอดภัย ของการทำธุรกรรมธนาคาร และการชำระเงินมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก นักต้มตุ๋นจึงต้องปรับเปลี่ยนกลไก ในการปลอมแปลงตัวตนให้แยบยลยิ่งขึ้น โดยพวกเขาเปลี่ยนเป้าหมายการโจรกรรม เป็นการโน้มน้าวบุคคลและธุรกิจ เพื่อโอนเงินให้พวกเขา โดยหลอกให้เชื่อว่าเป็นการโอนเงิน ให้แก่บุคคลหรือสถาบันที่มีอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คู่ค้าที่รู้จัก รวมถึงการซื้อสินค้าปลอมเสมือนจริง ผ่านช่องออนไลน์ หรือที่เรียกว่า การหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงิน (Authorized push payment fraud: APP Fraud) โดยการสูญเสียที่เกิดจากการหลอกลวงประเภทนี้คิดป็น 40% ของธุรกรรมในสหราชอาณาจักร หรือคิดเป็นมูลค่ารวมราว 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ ภายในปี 2026 นี้เท่านั้น”

“ธนาคารพบว่าการโจรกรรมในลักษณะนี้ยาก ต่อการตรวจสอบเป็นอย่างมาก เพราะผู้เสียหายเหล่านี้สามารถผ่านเกณฑ์การประเมิณความเสี่ยงของธนาคาร และยังทำการโอนเงินของพวกเขาด้วยตัวเอง โดยที่มิจฉาชีพไม่จำเป็นต้องทำการละเมิด มาตรการรักษาความปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้น ในปัจจุบันเราใช้ชีวิตในสังคมบนโลกดิจิทัลมากขึ้นในทุกวัน แต่การฉ้อโกงเหล่านี้กลับกลายเป็นตัวทำลายความเชื่อมั่น ของเหยื่อต่อการทำธุรกรรมออนไลน์ เราจึงตั้งเป้าหมายในการสร้างและรักษาความเชื่อมั่นของพวกเขา โดยใช้เทคโนโลยี AI เวอร์ชันล่าสุด เพื่อช่วยให้ธนาคารสามารถจำแนกและตรวจจับการใช้จ่ายที่มีพิรุจ และสามารถยับยั้งการโจรกรรมได้อย่างทันท่วงที”

“มาสเตอร์การ์ดได้มีการใช้งานระบบ AI นี้มาตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และในปัจจุบันระบบอัจฉริยะนี้ได้กลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน ที่สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจ ได้อย่างหลากหลายประเภท และเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยจำแนกรูปแบบ ของการฉ้อฉล โดยกระบวนการรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี AI ของมาสเตอร์การ์ด ได้ช่วยหยุดยั้งความสูญเสียแล้วมากกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลา 3 ปีที่ผ่านมา”

ด้าน นายพอล เดวิส ผู้อำนวยการฝ่ายการป้องกันการทุจริต ธนาคาร TSB กล่าวว่า “การโจรกรรมมีการพัฒนาความซับซ้อนมากขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้การตรวจจับการโจรกรรมทางการเงิน และแยกมันออกจากธุรกรรมทางการเงิน ที่ถูกกฎหมายซึ่งเกิดขึ้นนับล้านครั้งในทุกๆวัน ยากจนเปรียบเสมือนการงมเข็มในมหาสมุทร เพราะฉะนั้นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกัน และตรวจสอบจึงได้กลายมาเป็นกุญแจที่สำคัญในตอนนี้ ความร่วมมือของเรากับมาสเตอร์การ์ด เป็นการสนับสนุนข้อมูลที่จำเป็นในการตรวจจับบัญชีม้า และป้องกันการทำธุรกรรมฉ้อฉล จากเหล่ามิจฉาชีพ เพื่อไม่ให้โจรกรรมได้สำเร็จ”

ผลลัพธ์เบื้องต้นจากธนาคาร ที่ได้ใช้งานโซลูชัน Consumer Fraud Risk ในการประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อใช้ระบบโซลูชันนี้ ร่วมกับข้อมูลเชิงลึกของผู้ลูกค้า และพฤติกรรมทางการเงินของพวกเขา ประสบความสำเร็จในการป้องกันการโจรกรรมเป็นอย่างมาก เพราะการใช้ข้อมูลข้างต้น ทำให้ระบบสามารถตรวจจับ และจำแนกรูปแบบการโจรกรรมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโจรกรรมที่เป็นการหลอกลวงเหยื่อให้ชำระเงิน การโอนเงินให้ธุรกิจหรือบุคคลตัวปลอม รวมถึงวิธีการฉ้อฉลแบบ Romance scams โดยในปัจจุบันพบว่าการหลอกลวง ให้ชำระเงินคิดเป็น 57% ของการฉ้อฉลที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ และยังเป็นช่องโหว่ที่ยิ่งใหญ่ในประเทศ

Related Posts

Send this to a friend