‘Google Cloud’ เปิดตัวนวัตกรรม AI เขย่าวงการองค์กรในงาน Next ’25

วันนี้ (11 เม.ย. 2568) ในงาน Google Cloud Next 2025 บริษัท Google Cloud ได้เผยถึงผลกระทบเชิงเปลี่ยนแปลงที่ความก้าวหน้าด้าน AI สร้างให้กับองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในทุกระดับของกลุ่มเทคโนโลยี AI เพื่อเร่งความสามารถขององค์กรในการสร้างคุณค่าจากการลงทุนด้าน AI และตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในด้านอธิปไตย ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบของ AI
ปี 2024 Google Cloud ส่งมอบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่มากกว่า 3,000 รายการ ให้กับบริษัทชั้นนำจำนวนมาก ส่งผลให้ตัวเลขการใช้งาน Vertex AI เพิ่มขึ้น 20 เท่าในปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงนี้ขับเคลื่อนโดยการนำโมเดล AI ชั้นนำ เช่น Gemini, Imagen และ Veo มาใช้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Google Workspace ก็ได้รับการใช้งานเพิ่มขึ้น มีการใช้ AI assists มากกว่า 2 พันล้านรายการต่อเดือน เพื่อมอบความช่วยเหลือให้กับผู้ใช้ทางธุรกิจทั่วโลก
โทมัส คูเรียน CEO ของ Google Cloud กล่าวว่า “AI นำเสนอโอกาสที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเคยพบเห็นมาในประวัติศาสตร์ AI มีพลังในการยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และพลิกโฉมกระบวนการต่างๆ ในระดับที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน Google นำ Machine Learning มาใช้กับผลิตภัณฑ์มานานกว่า 20 ปี และการลงทุนใน AI นั้นหยั่งรากลึกในภารกิจหลักของเรา นั่นคือการจัดระเบียบข้อมูลของโลกและทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเข้าถึงได้และเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน Google Cloud ถือเป็นส่วนขยายที่สอดคล้องกับภารกิจของ Google เพื่อสร้างสิ่งที่ดีให้กับองค์กร โดยเราถือว่า AI เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทรงพลังที่สุดในการช่วยให้ลูกค้า นักพัฒนา และพันธมิตรของเราพัฒนาภารกิจของตนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น”
เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปิดกว้าง การทำงานร่วมกันได้ และการนำสิ่งที่ดีที่สุดของ Google มาสู่องค์กร Google Cloud ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมใหม่มากมายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน แพลตฟอร์มข้อมูลและ AI, โมเดล AI, AI agent และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงความสามารถแบบมัลติคลาวด์
องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลระดับโลกของ Google Cloud ที่โฮสต์อยู่ใน Google Cloud Region จำนวน 42 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศอินโดนีเซียและสิงคโปร์ พร้อมแผนการขยายตัวไปยังไทยและมาเลเซีย Google Cloud ให้บริการ AI Hypercomputer ผ่าน Cloud Region ซึ่งเป็นระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และรูปแบบการบริโภคที่ยืดหยุ่น (flexible consumption models) เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้งานได้ง่ายขึ้น
สัปดาห์นี้ Google Cloud เปิดตัวความก้าวหน้าใหม่ ๆ ให้กับ AI Hypercomputer ได้แก่ หน่วยประมวลผลเทนเซอร์ Ironwood (TPU) ซึ่งเป็น TPU รุ่นที่ 7 ของ Google ถือเป็นตัวเร่งความเร็ว AI แบบกำหนดเอง (หรือชิป AI) ที่มีประสิทธิภาพและปรับขนาดได้มากที่สุดในปัจจุบัน และเป็นเครื่องเร่งความเร็วตัวแรกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการอนุมาน AI โดยมีชิปมากกว่า 9,000 ชิ้นต่อพ็อด ประมวลผลได้สูงถึง 42.5 เอ็กซาฟล็อปต่อพ็อด ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของโมเดลการคิด เช่น Gemini 2.5 นอกจากนี้ Ironwood ยังประหยัดพลังงานมากกว่า TPU รุ่นที่ 6 ของ Google ถึง 2 เท่า และประหยัดพลังงานมากกว่า TPU รุ่นแรกจาก Google ที่ออกในปี 2018 ถึง 30 เท่า ตัวเลือก GPU ของ NVIDIA ที่ครอบคลุม โดย Google Cloud มอบฮาร์ดแวร์ AI ทางเลือกให้กับองค์กรต่างๆ ที่มี Virtual Machines (VM) A4 และ A4X ที่ขับเคลื่อนโดย GPU NVIDIA HGX B200 และ NVIDIA GB200
นอกจากนี้ Google ยังเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่นำเสนอ GPU Vera Rubin รุ่นถัดไปของ NVIDIA Cluster Director ช่วยให้องค์กรใช้งานและจัดการตัวเร่งความเร็ว AI จำนวนมากเป็นหน่วยการประมวลผลแบบรวมหน่วยเดียว จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความยืดหยุ่น การอนุมาน Google Kubernetes Engine (GKE) สามารถลดต้นทุนการให้บริการ AI ได้มากถึง 30% ลดเวลาแฝงในส่วนท้ายได้มากถึง 60% และเพิ่มปริมาณงานได้มากถึง 40% โดยอิงตามเกณฑ์มาตรฐานภายใน ความพร้อมใช้งานของ Pathways ซึ่งเป็น distributed machine learning runtime ของ Google พร้อมให้บริการแก่องค์กรต่างๆ เป็นครั้งแรกแล้ว ช่วยให้สามารถอนุมานโฮสต์หลายโฮสต์ที่ทันสมัยสำหรับการปรับขนาดแบบไดนามิก
Google Data Centers และ Google Cloud Regions เชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายระดับโลกของ Google ซึ่งมีสายไฟเบอร์ยาวกว่า 2 ล้านไมล์ ทั้งสายเคเบิลภาคพื้นดินและใต้น้ำ ครอบคลุมพื้นที่และอาณาเขตมากกว่า 200 แห่ง และทำงานด้วย “ความเร็วของ Google” เพื่อรองรับบริการ เช่น Gmail, YouTube และ Google Search สำหรับผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Google Cloud จะทำให้เครือข่ายส่วนตัวทั่วโลกนี้พร้อมใช้งานสำหรับองค์กรต่างๆ ผ่านบริการใหม่ที่เรียกว่า Cloud Wide Area Network (WAN) โดย Cloud WAN เป็นบริการที่ได้รับการจัดการอย่างเต็มรูปแบบ เชื่อถือได้ และปลอดภัย ช่วยเปลี่ยนโฉมโครงสร้าง WAN ขององค์กร มอบการปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายที่สูงถึง 40% ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของได้มากถึง 40%
ด้วยการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับโลกของ Google Cloud องค์กรต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากรากฐานระดับโลกที่แท้จริงและยืดหยุ่น ที่สร้างขึ้นสำหรับยุค AI นอกจากนี้ Google Cloud ยังประกาศว่าโมเดล Gemini ของ Google จะพร้อมใช้งานบน Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งจะทำให้โมเดลที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของ Google พร้อมใช้งานในสภาพแวดล้อมภายในองค์กร หรือ on-premises environments นั่นเอง ทั้งนี้ Google Cloud จับมือเป็นพันธมิตรกับ NVIDIA เพื่อนำโมเดล Gemini ไปสู่ระบบ NVIDIA Blackwell โดยมี Dell เป็นพันธมิตรหลัก ดังนั้นจึงสามารถใช้โมเดลเหล่านี้ภายในองค์กรในสภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกันและแยกจากกันแบบ air-gapped ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กร เช่น ภาครัฐ
แพลตฟอร์ม Vertex AI ของ Google Cloud ช่วยให้องค์กรเข้าถึงโมเดลแนวหน้าระดับโลกของ Google DeepMind ได้ ซึ่งแต่ละโมเดลได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละองค์กร ซึ่งรวมถึง โมเดล Gemini 2.5, Generative media models, Chirp 3, Lyria, Veo 2, WeatherNext และ AlphaFold 3
ในงาน Next ’25 บริษัท Google Cloud ประกาศความก้าวหน้าใหม่ ๆ ของ Vertex AI ซึ่งช่วยปรับปรุงความสามารถขององค์กรในการจัดการแผนการด้าน AI ซึ่งรวมถึง โมเดล AI กว่า 200 โมเดลพร้อมให้เลือกใช้งานใน Vertex AI Model Garden การฝึกฝนและปรับแต่งโมเดล AI ตามความต้องการ การเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลจากคลาวด์หลากหลายแพลตฟอร์ม การอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ไว้ใจได้ยิ่งขึ้น แดชบอร์ด Vertex AI และเครื่องมือปรับแต่งโมเดล และ Live API
สำหรับนักพัฒนา แพลตฟอร์ม เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่เปิดกว้างที่สุด และรองรับโซลูชันแบบ multi-agent อย่างแท้จริง ขีดความสามารถใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรก้าวเข้าสู่ระบบนิเวศแบบ multi-agent ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในจุดไหนในการใช้งาน AI หรือเลือกใช้ชุดเทคโนโลยีแบบใดก็ตาม มีดังนี้ Agent Development Kit (ADK), Agent2Agent (A2A) protocol, Agent Garden และ Google Agentspace