เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัว ‘Dell APEX’ หนุน กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมสร้างนวัตรกรรมมัลติคลาวด์

กลุ่มผลิตภัณฑ์ as-a-Service และ multicloud ที่ครอบคลุมมากที่สุดในอุตสาหกรรมช่วยให้บริษัทต่างๆ จัดการข้อมูลและแอปพลิเคชันได้ดีขึ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม โดย Dell APEX ขยายตัวด้วยซีรีย์ความร่วมมือในการออกแบบ Dell APEX Cloud Platforms ต่างๆ จากไมโครซอฟท์และ Red Hat ให้สามารถขยายการปฏิบัติงานบนสภาพแวดล้อมพับบลิคคลาวด์ไปสู่การปรับใช้ไอทีบน on-premises และมอบพีซีโซลูชันที่ทันสมัย ในขณะที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปลดปล่อยต้นทุนให้เป็นอิสระผ่านการสมัครสมาชิกที่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศเปิดตัวการให้บริการ Dell APEX ใหม่ทั้งบนคลาวด์แพลตฟอร์มต่างๆ บนสตอเรจซอฟต์แวร์สำหรับพับบลิคคลาวด์ ตลอดจนอุปกรณ์ไคลอันท์ต่างๆ และคอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผลส่วนเสริมทั้งหมดนี้ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์ as-a-Service และมัลติคลาวด์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดของอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงพับบลิคคลาวด์ และอุปกรณ์ไคลอันท์ต่างๆ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานและสร้างนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

ชัค วิทเทน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วมของเดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า “Dell APEX ได้ขยายขอบของสายผลิตภัณฑ์ได้กว้างขวางยิ่งขึ้นเพื่ออิสระทางด้านเทคโนโลยีเพื่อการสนับสนุนธุรกิจที่ดียิ่งขึ้นของลูกค้าตามความต้องการ ตั้งแต่พีซีและไอทีบน on-premises ไปจนถึงพับบลิคคลาวด์และพื้นที่ระบบเอดจ์”

สำหรับ “Dell APEX Cloud Platforms” คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บูรณาการระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ และสแต็คการปฏิบัติการคลาวด์ของเดลล์เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ครบวงจร ที่ให้การทำงานแบบมัลติคลาวด์ที่สอดคล้องกันด้วยการขยายโมเดลการปฏิบัติการบนคลาวด์ไปยัง on-premises และเอดจ์ ตัวเวิร์กโหลดสามารถวางในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดตามประสิทธิภาพ ต้นทุน และความปลอดภัยที่ต้องการ พร้อมด้วยความสามารถในการเคลื่อนที่ของดาต้าผ่านลำดับชั้นสตอเรจมัลติคลาวด์ทั่วไป นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถย้ายข้อมูลระหว่างสภาพแวดล้อมของ on-premises และการปรับใช้ Dell APEX Block Storage for Public Cloud ได้อย่างราบรื่น โดยแต่ละระบบได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งประสิทธิผลการทำงานของไอทีและคนพัฒนาด้วยเครื่องมือการจัดการที่คุ้นเคย รวมถึงการปรับใช้โดยอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์และระบบการจัดการ lifecycle

คลาวด์ แพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนาภายใต้ความร่วมมือกับ “ไมโครซอฟท์ เรดแฮท” และ “วีเอ็มแวร์” ได้แก่

1.Dell APEX Cloud Platform สำหรับ Microsoft Azure: เพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การใช้งาน Azure แบบไฮบริดด้วยการบูรณาการของซอฟต์แวร์ (stack software) และการจัดการวงจรชีวิตแบบอัตโนมัติผ่านเครื่องมือการจัดการแบบเนทีฟของไมโครซอฟท์ และการทำงานร่วมกันด้านวิศวกรรมในวงกว้างระหว่างเดลล์ และไมโครซอฟท์ โดยแพลตฟอร์มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ทันสมัย อีกทั้งให้เวลาที่เร็วขึ้นในการสร้างมูลค่าของ Azure โดยอิงตามโครงสร้างพื้นฐานที่เปิดใช้งาน Azure Arc พร้อมด้วยการดำเนินงานที่สอดคล้องกันและการกำกับดูแลที่ครอบคลุมทั้งบน on-premises ดาต้าเซ็นเตอร์ พื้นที่การทำงานของระบบเอดจ์ (edge) และAzure พับบลิคคลาวด์ที่ใช้ Azure Arc

2.Dell APEX Cloud Platform for Red Hat OpenShift: ช่วยลดความซับซ้อนของการพัฒนาและการจัดการแอปพลิเคชันที่อยู่บนคอนเทนเนอร์ (container-based application) ไม่ว่าแอปพลิเคชันนั้นจะถูกพัฒนาหรือใช้งานอยู่ที่ใดก็ตาม โดยผ่านทางการบูรณาการของซอฟต์แวร์ (stack software) ที่สมบูรณ์ รวมถึงระบบอัตโนมัติด้วยแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์แอปพลิเคชันชั้นนำของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของ Kubernetes ลูกค้าสามารถรันคอนเทนเนอร์ รวมถึงเวอร์ชวลแมชชีนต่างๆเคียงข้างไปด้วยกันภายใน Kubernetes ด้วยประสบการณ์แบบครบวงจรสำหรับเวิร์กโหลดที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึง AI/ML และการวิเคราะห์ ด้วยการรองรับของ GPU ที่กว้างขวางครอบคลุมการทำงานของไฮบริดคลาวด์ที่มีอยู่ การให้บริการนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือทางวิศวกรรมเชิงลึกระหว่างเดลล์และ Red Hat โดยใช้ Kubernetes สำหรับเอนเทอร์ไพรซ์ ที่มากับการสนับสนุนของRed Hat Enterprise Linux ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Linux ระดับองค์กรชั้นนำของโลก

3.Dell APEX Cloud Platform for VMware: มอบความยืดหยุ่นให้กับลูกค้าในการปรับใช้ vSphere บนระบบที่บูรณาการอย่างสมบูรณ์ด้วยสตอเรจที่กำหนดการทำงานโดยซอฟต์แวร์ (software-defined storage) ที่ทรงประสิทธิภาพสูง ที่สามารถปรับขยายเพื่อรองรับการทำงานได้ของเดลล์ โดยบริการใหม่นี้ผสาน พร้อมที่จัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ของ Dell ที่ปรับขนาดได้สูงและมีประสิทธิภาพสูง ข้อเสนอใหม่นี้เข้าร่วมกับ Dell APEX Private Cloud และ Dell APEX Hybrid Cloud เข้าด้วยกันภายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dell APEX ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของ VMware ในการพัฒนาและดำเนินงานบนเส้นทางของมัลติคลาวด์

ทั้งนี้ “Dell APEX” นำประสบการณ์คลาวด์มาสู่พีซี และเซิร์ฟเวอร์ โดยเดลล์ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dell APEX เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการการดำเนินงานด้านไอทีในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังปรับใช้งานโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วขึ้น สามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และจัดการการนำอุปกรณ์กลับคืนมาอย่างปลอดภัยและยั่งยืนผ่านประสบการณ์การทำงานแบบ as-a-Service

• Dell APEX PC-as-a-Service (PCaaS): ช่วยให้บริษัทต่างๆ ลดความซับซ้อนด้านไอที และปรับใช้เทคโนโลยีไคลอันท์ล่าสุดด้วยต้นทุนที่สามารถคาดการณ์ได้ ในขณะปลดปล่อยเงินทุนเพื่อการลงทุนในประสบการณ์การของพนักงานยุคใหม่ให้เป็นอิสระ ทั้งนี้ องค์กรสามารถปรับแต่งการให้บริการได้ตามความต้องการของผู้ใช้บนกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีที่มีอยู่ทั้งหมด และการบริการต่างๆ ด้วยข้อกำหนดระยะเวลา 1-5 ปี ที่ยืดหยุ่นได้ รวมถึงความสามารถในการปรับลด หรือเพิ่มขนาดการทำงานตามต้องการ โดยลูกค้ากลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้ Dell APEX PCaaS รายงานการใช้ความช่วยเหลือจาก help desk ที่น้อยลง 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนซัพพอร์ตลง 30 เปอร์เซ็นต์ และใช้เวลาน้อยลง 50 เปอร์เซ็นต์ ในการติดตั้งอุปกรณ์ของพนักงาน

แมทธิว อีสต์วูด รองประธานอาวุโสของไอดีซี กล่าวต่ออีกว่า “องค์กรธุรกิจต่างกำลังมองหาวิธีในการเสริมประสิทธิภาพสภาพแวดล้อมด้านไอทีให้ดียิ่งขึ้นเพื่อที่ข้อมูลและแอปพลิเคชันจะมีพลังอย่างเปี่ยมล้นเมื่อทำงานในพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดให้กับธุรกิจต่างๆ ดังนั้น เดลล์ เทคโนโลยีส์ ได้ส่งมอบส่วนขยายที่สำคัญของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dell APEX ที่ช่วยสร้างสิ่งที่เหมือนกันของสภาพแวดล้อมการทำงานของทั้งพับบลิคคลาวด์และทั้ง on-premises เพื่อลดความซับซ้อนในการจัดวางเวิร์กโหลดทั้งมวล”