SOCIAL RESPONSIBILITY อย่าให้วันเด็กแห่งชาติเป็นวันเดียวที่เด็กจะมีความสุข เมื่อเราสามารถช่วยได้ วันเด็กแห่งชาติ กำลังจะเวียนมาถึงอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 11 มกราคมนี้ พร้อมคำขวัญประจำปี 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” เด็กๆ ต่างรอคอยวันนี้ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นวันของพวกเขา วันที่พ่อแม่ต้องตามใจเด็ก วันที่เด็กไปไหนก็มีคนมอบของให้ เป็นวันที่มีแต่ความสุข แต่สำหรับเด็กอีกหลายๆ คนวันเด็กเป็นเพียงวันเดียวในแต่ละปีที่พวกเขามีความสุขที่ได้รับอะไรมากมายกว่าปกติ มีคนสนใจมากกว่าปกติ และเป็นวันที่ได้ยิ้มกว้างกว่าปกติ เด็กบางคนอาจไม่มีโอกาสเป็น “เด็ก” ได้ทุกวัน พวกเขาอาจต้องทำงานแทนที่จะได้เรียนหนังสือ พวกเขาอาจจะหลุดออกนอกระบบการศึกษาเพราะปัญหาความยากจน เด็กบางคนและครอบครัวอาจป่วยและรอคอยโอกาสในการรักษา ในขณะที่เด็กที่ยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้บางคนอาจต้องเฝ้ารอคอยความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดีเพราะพวกเขาไม่มีครอบครัวที่คอยดูแลเหมือนคนอื่นๆ The Reporters ขอรวบรวมหน่วยงาน และช่องทางในการช่วยเหลือน้องๆ เยาวชนเหล่านั้น เพื่อหยิบยื่นโอกาส และรอยยิ้มให้พวกเขาอีกครั้งในทุกช่วงเวลาของปี ไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงวันเด็กอย่างเดียว กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) หรือ Equitable Education Fund (EEF) เกิดขึ้นตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ ในความพยายามที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษารวมทั้งเสริมสร้างพัฒนาครูที่มีคุณภาพ มีภารกิจในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาสนับตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยแรงงานให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา เพื่อยกระดับความสามารถของคนไทยได้อย่างยั่งยืน และบรรเทาความยากจนอันเป็นรากเหง้าของปัญหาอื่นๆ ซึ่งหากแก้ไม่ได้ ปัญหานี้จะส่งทอดวนเวียนไปข้ามชั่วคน จากพ่อแม่ ส่งต่อไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานได้เพราะมีกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงการศึกษา หรือได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพต่างกันและแม้จะได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลแล้วก็ตาม แต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และการหลุดออกนอกระบบการศึกษาของเด็กกลุ่มขาดโอกาส และยากจน ไปจนถึงยากจนพิเศษเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก โดยข้อมูลล่าสุดเท่าที่มีการเก็บรวบรวมไว้พบว่า มีเด็กไทยมากกว่า 5 แสนคนหลุดออกจากระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเลิกเรียนไปทำงาน หรือหยุดเรียนเพราะไม่สามารถมาเรียนได้จากปัญหาความเป็นอยู่ และเสี่ยงหลุดออกจากระบบอีกกว่า 2 ล้านคน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จึงเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน และภาคประชาชนร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน โดยหากเป็นการบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุน จะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่าอีกด้วยการร่วมบริจาคสามารถทำได้โดย โอนเงิน ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาซอยอารีย์ เลขที่ บช. 172-0-30021-6 ชื่อบัญชี กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค”ช่องทางการติดต่อ กสศ. 02 079 5475 มูลนิธิเด็ก เป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งมา 40 ปีแล้ว และดำเนินการให้ความช่วยเหลือเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิด ถึงเด็กโต มีวัตถุประสงค์เพื่อ ช่วยหลือเด็กด้านปัจจัยพื้นฐาน การดำเนินชีวิตและสวัสดิการต่าง ๆ ให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสมทางร่างกาย สติปัญญา และจิตใจ ค้นหาทางเลือกทางการศึกษาที่เหมาะสม ให้เด็กใช้สิทธิ เสรีภาพในการรับฟังความคิดเห็น ค้นหางานศิลปะ ดนตรี นิทานที่ส่งเสริมจินตนาการ และ ความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กในสังคม ช่วยเหลือเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน เช่น ถูกทารุณ ทอดทิ้ง ใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย และเป็นโสเภณีเด็กให้มีโอกาสดีสำหรับชีวิตในอนาคต ส่งเสริมบทบาทของครอบครัวให้เป็นรากฐานที่ดีแก่ชีวิตเด็ก กระตุ้นเตือนสาธารณชนให้ตระหนักในเรื่อง “การพิทักษ์สิทธิ” ของเด็ก และ “ปัญหา” เด็กไทยมูลนิธิเด็กมีโครงการย่อยที่อยู่ภายใต้มูลนิธิหลายโครงการ ได้แก่ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็ก สานรัก บ้านทานตะวัน โครงการอุปการะเด็กและทุนการศึกษาเพื่อเด็กยากไร้ในชนบท โครงการปฏิรูปการศึกษาเพื่อเด็กและชุมชน โครงการฟื้นฟูเด็กพิเศษและเด็กพัฒนาการช้า รายการสะพานสายรุ้ง สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก ของชำร่วยการกุศล ตู้หนังสือในบ้านเด็ก รถเข็นนิทาน ช่องทางการร่วมช่วยเหลือ แบ่งเป็นการบริจาคเงินธนาณัติในนาม มูลนิธิเด็ก สั่งจ่าย ปณ.กระทุ่มล้ม 73220 เช็คสั่งจ่ายมูลนิธิเด็ก หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ “มูลนิธิเด็ก”ธนาคารไทยพาณิชย์ เพชรเกษม 114 เลขที่บัญชี 115-2-14733-0ธนาคารกสิกรไทย พุทธมณฑลสาย 4 เลขที่บัญชี 261-2-84481-2ธนาคารกรุงเทพ หนองแขม เลขที่บัญชี 236-0-30989-8ธนาคารกรุงไทย เพชรเกษม 91 (อ้อมน้อย) เลขที่บัญชี732-1-25298-1 อุปการะเด็กโดยสามารถอุปการะได้เป็นงวด งวดละ 6 เดือน แบ่งเป็นเด็กแรกเกิด – 4 ขวบ (บ้านทานตะวัน) เดือนละ 500 บาทต่อเด็ก 1 คนเด็ก 4-8 ขวบ (โรงเรียนอนุบาล ม.เด็กสานรัก) เดือนละ 500 บาทต่อเด็ก 1 คนเด็กโต 8-22 ปี (หมู่บ้านเด็ก กาญจนบุรี) เดือนละ 1,000 บาท ต่อเด็ก 1 คนเลี้ยงอาหารเด็ก โดยมีตั้งแต่การเลี้ยงอาหารเด็กทั้งมื้อ เลี้ยงขนมเด็ก เลี้ยงผลไม้ นม ไอศกรีม หรือการบริจาคเพื่อซื้อข้าวสารสำหรับเด็ก โดยสามารถติดต่อจองล่วงหน้าอุดหนุนสินค้า การ์ด และของชำร่วยจากมูลนิธิเด็กสอบถามรายละเอียดสินค้า หรือขั้นตอนการสั่งซื้อได้ที่ 02-881-1734 / 088-008-3719 หรือ LINE: @shareforchild หรือ อีเมล product_ffc@hotmail.comบริจาคสิ่งของด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ที่มูลนิธิเด็ก เลขที่ 95/24 หมู่ 6 ซ.กระทุ่มล้ม 18 ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม 73220 ช่องทางการติดต่อมูลนิธิเด็ก โทร. 02-814-1481 หรือ Line: @ffcthailand สิ่งที่ต้องการเป็นพิเศษ สิ่งของที่ทั่วไป ในกลุ่มอาหาร เช่นนมกล่องรสจืด นมถั่วเหลืองสูตรเจ น้ำผลไม้ 100% ขนาดกล่องเล็ก นมผงรสจืด ข้าว เส้นหมี่ เส้นสปาเก็ตตี้ ธัญพืช กระเทียม หอม เครื่องเทศ เครื่องปรุงอาหาร เช่นน้ำมัน น้ำปลา เครื่องใช้ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด แป้ง สบู่ ยาสีฟัน ครีมทาผิวเด็ก วาสลีน สำลี กระดาษชำระ ผ้าอ้อม อุปกรณ์ทำความสะอาด ถุงดำ ของเล่นเพิ่มทักษะ อุปกรณ์กีฬา ฯลฯโดยหากของที่ได้รับบริจาคมากกว่าความต้องการจะส่งต่อไปยังมูลนิธิหรือองค์กรอื่นๆ ที่ขาดแคลนต่อไป สิ่งที่ขอไม่รับ ทางมูลนิธิเด็กไม่รับบริจาค ขนมเค้กและโดนัท, ขนมขบเคี้ยว, ขนมกรุบกรอบ ลูกอมทุกชนิด, หมากฝรั่ง, อมยิ้ม, น้ำอัดลม, น้ำผลไม้ (ที่แต่งกลิ่นและเจือสีสังเคราะห์) เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของเด็ก ๆ มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก (Pediatric Cardiac Surgery Foundation) ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โดยการช่วยเพิ่มการผ่าตัดหัวใจเด็กให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้การรอคอยที่ยาวนานในการจะเข้ามารับการผ่าตัดสั้นลง และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยเด็กที่มีความจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดช่วยชีวิตด่วน ตลอดจนพัฒนาบุคลากรอันประกอบด้วย ศัลยแพทย์หัวใจเด็ก กุมารแพทย์หัวใจเด็ก วิสัญญีแพทย์หัวใจเด็กและบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลรักษาเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ตั้งแต่ก่อนการผ่าตัด ระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัด และตลอดช่วงของการเติบโตต่อไปจนเป็นผู้ใหญ่ ช่องทางการร่วมช่วยเหลือ แบ่งเป็นการบริจาคเงินส่งธนาณัติ : สั่งจ่ายไปรษณีย์ ราชเทวี 10401 ส่งตามที่อยู่ : มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก สถาบันโรคหัวใจ โรงพยาบาลราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 หรือ สั่งจ่ายเป็นเช็คในนาม : ‘มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก’โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม ‘มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก’ ธนาคารกรุงเทพ สาขาอาคารยาคูลท์ สนามเป้า เลขที่บัญชี 210-0-27534-2ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาราชวิถี เลขที่บัญชี 051-2-32785-9ธนาคารกสิกรไทย สาขาสนามเป้า เลขที่บัญชี 029-2-44000-6ธนาคารกรุงไทย สาขาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เลขที่บัญชี 672-1-05242-3 อุดหนุนสินค้าต่างๆ ของมูลนิธิ อาทิ กระเป๋า กระบอกน้ำ ช่องทางการติดต่อมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก 02-354-8108-37 ต่อ 4304 มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้การสงเคราะห์เด็กและผู้เยาว์ที่ถูกทอดทิ้งไว้กับสภากาชาดไทย หรือเด็กและผู้เยาว์ที่ครอบครัวไม่สามารถให้การเลี้ยงดูได้ และยกให้มูลนิธิตามกฎหมาย รวมทั้งเด็กและผู้เยาว์กำพร้าไร้ที่พึ่ง ส่งเสริมการดูแลสุขภาพและพัฒนาศักยภาพของเด็กและผู้เยาว์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งตนเองได้ ช่องทางการร่วมช่วยเหลือ แบ่งเป็นการบริจาคเงินการบริจาคทุนทรัพย์ ที่สำนักงาน ฝ่ายบริหารงานทั่วไป ตึกวชิราลงกรณ ชั้น1 ภายในรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้านถนนอังรีดูนังต์ (วัน-เวลาราชการ) สถานสงเคราะห์ ฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กปฐมวัย ตึกวชิราลงกรณ ชั้น 2บริจาคเข้าบัญชีของมูลนิธิฯ ประเภทออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี “มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย” เลขที่บัญชี 045-2-01504-1 บริจาคสิ่งของด้วยตนเอง ที่มูลนิธิ สำหรับสิ่งที่ต้องการและแนะนำเป็นพิเศษ ได้แก่ อาหาร ขนม นมยูเอชที อาหารเสริม นมผงสำหรับเด็กที่มีปัญหาระบบการย่อย หรือนมชนิดพิเศษอื่นๆ เฉพาะโรคของเด็ก สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แปรงสีฟัน สบู่ ไม้พันสำลี น้ำยาซักผ้า ผ้าเช็ดทำความสะอาดชนิดเปียก ถุงเท้าสำหรับเด็กอายุ 5 – 7 ปี เสื้อผ้า สมุด ดินสอ ฯลฯ อุปกรณ์หรือของเล่น เพื่อเสริมทักษะของเด็กด้านต่างๆ สนับสนุนกิจกรรม เช่น เลี้ยงของว่าง สอนร้องเพลง เล่านิทานให้เด็กฟัง หรือเข้ามาเป็นจิตอาสาที่มูลนิธิ หรืออุปการะเด็ก ติดต่อเพิ่มเติม 02-256-4277 ช่องทางการติดต่อมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย โทร. 02-245-2200 เมื่อโอกาสของคนเราไม่เท่ากัน เด็กบางคนอาจต้องการโอกาสมากกว่าที่คุณคิด และการช่วยเหลือของมูลนิธิต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นการช่วยเพื่อให้น้องๆ เหล่านี้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ เป็นประชากรที่ดีของประเทศ และพึ่งพาคนเองได้ ไม่ใช่เพียงการช่วยเหลือเพื่อให้กินอิ่ม นอนหลับ ได้เรียนหนังสือเท่านั้น … หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มี และพร้อม หากต้องการแบ่งปัน ก็จะนับเป็นการช่วย “ชีวิต” และ “ประเทศ” ไปพร้อมๆ กัน Tags: การศึกษา ความเหลื่อมล้ำ มูลนิธิ แนะแนวเรื่อง Previous Previous post: “ปิยบุตร” โชว์เอกสารหลุดคดี ”เงินกู้พรรค” กกต.พุ่งเป้ายุบพรรคอนาคตใหม่เอาผิดคนละมาตรากับที่ยื่นร้อง ยืนยันสู้ต่อNext Next post: EAT DIARY: บ้าน และเกสร Restaurant & Café เมื่อดอกไม้กินได้ และทุกเมนูปลอดผงชูรส Related Posts มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.มอบเงินบริจาค ให้แก่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ส่งต่อการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง Sea (ประเทศไทย) มุ่งสืบสานพระราชดำริรัชกาลที่ 9 สร้างสื่อการเรียนรู้ด้วย ‘เกมมิฟิเคชั่น’ ในโครงการ “ของขวัญจากพ่อ” เลือดสำรองคงคลังเริ่มขาดแคลนทั่วประเทศ สภากาชาดไทย ชวนคนสุขภาพดีร่วมบริจาคโลหิต