คาร์กิลล์ สานต่อโครงการ Smart Farming มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เกษตกร จ.นครราชสีมา-จ.สระบุรี
คาร์กิลล์ บริษัทอาหารและเกษตรชั้นนำระดับโลก สานต่อโครงการ Smart Farming ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Cargill Cares การส่งเสริมการปลูกข้าวแบบปลอดภัย คือ ความใส่ใจจากคาร์กิลล์” สำหรับปีนี้ คาร์กิลล์ เป็นเจ้าภาพจัดงาน พิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าว (Grain Handover Ceremony) ให้แก่เกษตรกร ในจังหวัดนครราชสีมา และสระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการขยายการสนับสนุน โครงการสู่ทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมอย่างน้อย 6,200 ไร่ ที่เกิดจากการสานต่อความร่วมมือ กับฟาร์มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยบูรพา (วิทยาเขตสระแก้ว) ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อส่งมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี แก่เกษตรกรไทย
ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกร สามารถเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพสูง เปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการให้ผลผลิต และสามารถต้านทานต่อโรคและศัตรูพืช พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ ควบคู่กับวิถีการทำนาแบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มความสามารถ ในการผลิตพืชผลทางการเกษตร ให้มีผลผลิตที่ปลอดภัย โดยมีการจัดการทรัพยากรดิน น้ำ และแร่ธาตุ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
นายสุเกียรติ กิตติธรรมโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และองค์กรสัมพันธ์ บริษัท คาร์กิลล์สยาม จำกัด กล่าวว่า “คาร์กิลล์ เดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของเกษตรกรและสังคมไทย ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาในหลากหลายมิติ ภายใต้โครงการ Smart Farming และในปีนี้ คาร์กิลล์ ขยายการสนับสนุนโครงการ สู่พื้นที่อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมอย่างน้อย 6,200 ไร่ ผ่านความร่วมมือกับฟาร์มมหาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาลัยบูรพา (วิทยาเขตสระแก้ว) ร่วมส่งมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีและเหมาะสม ต่อการเพาะปลูกในพื้นที่ให้แก่เกษตรกร พร้อมมอบองค์ความรู้ด้านการเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพและเพิ่มปริมาณผลผลิต ในการผลิตข้าวไทย ควบคู่กับการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ของเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน”
ความร่วมมือในครั้งนี้ คาร์กิลล์ มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย 4 ประการ ได้แก่
1.การปรับปรุงการจัดการดินและน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 6,200 ไร่ ให้มีความสมบูรณ์
2.การเพิ่มผลผลิตของเกษตรกรให้สูงขึ้น 20-30% จากเดิมผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 550 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นเป็น 800 กิโลกรัมต่อไร่
3.การช่วยลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ พร้อมส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ของเกษตรกรและครอบครัว มากกว่า 1,200 คน
4.การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้กับชุมชนในมูลค่ากว่า 24 ล้านบาท โดยเปรียบเทียบจากมูลค่าผลผลิตของเกษตรกรก่อนและภายหลัง การสนับสนุนด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีทางการเกษตร และเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับเกษตรกร
ด้าน นายสุเกียรติ กิตติธรรมโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และองค์กรสัมพันธ์ บริษัท คาร์กิลล์สยาม จำกัด กล่าวว่า “คาร์กิลล์ เดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของเกษตรกรและสังคมไทย ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาในหลากหลายมิติ ภายใต้โครงการ Smart Farming และในปีนี้ คาร์กิลล์ ขยายการสนับสนุนโครงการ สู่พื้นที่อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมอย่างน้อย 6,200 ไร่ ผ่านความร่วมมือกับฟาร์มมหาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาลัยบูรพา (วิทยาเขตสระแก้ว) ร่วมส่งมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี และเหมาะสมต่อการเพาะปลูกในพื้นที่ให้แก่เกษตรกร พร้อมมอบองค์ความรู้ด้านการเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพและเพิ่มปริมาณผลผลิตในการผลิตข้าวไทย ควบคู่กับการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ของเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน”
ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง คณบดีสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า “ฟาร์มมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินกิจกรรมของโครงการ โดยใช้การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่ กับวิถีการปลูกข้าวแบบดั้งเดิมให้ควบคู่กันไป เกษตรกร/ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับการฝึกอบรมโดยอาจารย์ นักวิจัย ที่มีความรู้ด้านการปลูกข้าวโดยตรง และนำเครื่องมือสมัยใหม่มาฝึกอบรมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจพื้นที่เกษตรก่อนทำหรือหลังทำ การหว่านเมล็ด การพ่นสารอาหารพืช ปีนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ ได้ฝึกปฏิบัติจริงจากการฝึกอบรม ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติอยู่แล้ว ดังนั้นภารกิจที่สำคัญของเรา คือ นำความรู้ด้านเทคโนโลยี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องลงไปสู่ชุมชน ได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง”
ดร.สิริเชษฐ์ รัตนะชิตธวัช คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาลัยบูรพา (วิทยาเขตสระแก้ว) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปี มหาวิทยาลัยบูรพา (วิทยาเขตสระแก้ว) ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริม การปลูกข้าวแบบปลอดภัย ด้วยการนำหลักวิชาการด้านเกษตรมาเชื่อมโยงกับสังคมและชุมชน ทีมอาจารย์ของมหาวิทยาลัยบูรพา (วิทยาเขตสระแก้ว) ดำเนินกิจกรรมตามองค์ความรู้ ที่จะสามารถพัฒนาเกษตรกรในระยะยาวได้ และให้เกิดการเรียนรู้ในชุมชนหรือสังคมในพื้นที่ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคนในชุมชน หรือสังคม มหาวิทยาลัยบูรพา (วิทยาเขตสระแก้ว) ยินดีเป็นอย่างมากที่เราได้เข้าไปมีส่วน ทำให้เกษตรกรมีการพัฒนาด้านการเกษตร โดยเฉพาะเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จตามที่เราคาดหวังไว้”
นายธรรมธรรศ ทองสำโรง นายอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ผมในฐานะตัวแทนหน่วยงานราชการในพื้นที่อำเภอโชคชัย ต้องขอขอบคุณหน่วยงานทุกๆ ภาคส่วนที่ผลักดันกิจกรรมให้เกษตรกร/ชาวนาได้รับประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยบูรพา และบริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ให้ความสำคัญกับอาชีพเกษตร ผมมองว่าองค์ความรู้เป็นเรื่องสำคัญ ต่อการพัฒนาเกษตรให้รู้เท่าทัน ต่อการดำเนินการเพาะปลูก ได้เรียนรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ ที่เกษตรกรอาจจะเข้าไปไม่ถึง โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการตัวอย่างที่นำมาสู่มือชาวนาและเกษตรกรโดยแท้จริง ซึ่งโครงการได้ดำเนินกิจกรรมมาแล่ว 3 ปี ถือว่าชาวนาได้รับประโยชน์ ทั้งการพัฒนาทักษะวิธีการในด้านต่างๆ”