FWD เผยอินไซต์แคมเปญ ‘ป้ายรถเมล์พูดได้’ ยกระดับให้ผู้พิการทางสายตาเข้าถึงบริการสาธารณะ
FWD ประกันชีวิต เปิดผลสำรวจแคมเปญ “The Talkable Bus Shelter ป้ายรถเมล์พูดได้” ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าว เป็นไอเดียของ FWD ประกันชีวิต ร่วมกับ GREYNJ UNITED ในการใช้เทคโนโลยีควบคู่กับความคิดสร้างสรรค์ จนออกมาเป็นการสร้างระบบเสียงอัจฉริยะ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการทางสายตาสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้อย่างสะดวก ด้วยการเตือนให้ทราบถึงรถเมล์ที่กำลังจะมา และเตรียมตัวเดินทาง เพื่อไปถึงจุดที่หมายที่ต้องการได้อย่างปลอดภัย
FWD ประกันชีวิต ศึกษาข้อมูลจากรายงานสถานการณ์ด้านคนพิการทางการมองเห็นในประเทศไทย โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) พบว่าประเทศไทยมีผู้พิการทางสายตา 184,622 คน ที่มีการเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ขณะที่ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้พิการทางสายตาภายใต้การดูแลของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย พบว่าผู้พิการทางสายตาส่วนใหญ่เลือกใช้การเดินทางประจำวันด้วยรถโดยสารประจำทาง แต่มักจะพลาดรถประจำทางสายที่ต้องการ เนื่องจากไม่สามารถรับรู้ถึงสายรถประจำทางที่ต้องการได้อย่างชัดเจน
จากรายงานการสำรวจของ FWD ประกันชีวิต พบว่า ร้อยละ 94 เคยมีประสบการณ์ใช้บริการ โดยผู้ใช้งานมักจะเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางเพื่อไป-กลับระหว่างบ้านและที่ทำงานเป็นหลัก เฉลี่ยเดินทางประมาณ 8 ครั้งต่อสัปดาห์ และใช้เส้นทางประจำนี้ประมาณ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ ระบบเสียงอัจฉริยะจากป้ายรถเมล์พูดสามารถตอบโจทย์ผู้พิการทางสายตาให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้สะดวกขึ้น มีเวลาเตรียมตัวเพื่อขึ้นรถโดยสาร อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานทราบว่ารถเมล์สายไหนที่กำลังจะเข้าจอดที่ป้าย
ปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต กล่าวว่า ผลวิจัยแคมเปญ “The Talkable Bus Shelter ป้ายรถเมล์พูดได้” คือ การเดินถูกทางในการที่จะช่วยยกระดับความเท่าเทียม นอกเหนือจากการสร้างความตระหนักรู้ เรายังลงมือทำให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง พร้อมทั้งการลงพื้นที่สำรวจ feedback ทำให้ได้ learning เพิ่มเติมเพื่อนำมาพัฒนาต่อได้
“FWD ประกันชีวิต ในฐานะองค์กรที่สนับสนุนด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และเคารพทุกความแตกต่างกันในสังคม รู้สึกภูมิใจที่แคมเปญของเราได้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา pain point ในเรื่องการเดินทางโดยรถสาธารณะของกลุ่มผู้พิการทางสายตา ซึ่งนับว่าเป็นอีกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้งยังช่วยยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการทางสายตาในด้านการเดินทางให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น” ปวริศา กล่าว
