PUBLIC HEALTH

กรมการแพทย์ เตือน โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในไทย

แนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นทุกปี แนะตื่นตัวในการป้องกัน หากมีอาการควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด ช่วยลดความพิการหรือเสียชีวิต

วันนี้ (28 ต.ค. 67) นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในประเทศไทยโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 1 และเป็นสาเหตุของการสูญเสียปีสุขภาวะที่สำคัญอันดับ 2 พบได้ทั้งชายและหญิง หากเกิดโรคแล้วผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีความพิการหลงเหลืออยู่ หากได้รับการรักษาท่วงทีจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและความพิการลง การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด โดยควบคุมปัจจัยเสี่ยงของโรค ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ภาวะโรคอ้วน ภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

ว่าที่ร้อยตำรวจโทหญิง แพทย์หญิง นภา ศิริวิวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า อาการเตือนสำคัญที่สังเกตได้คือ อาการแขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดลำบาก ตามัว เห็นภาพซ้อนหรือเห็นครึ่งซีก ต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง อาการเหล่านี้มักเกิดอย่างเฉียบพลัน ในรายที่มีภาวะสมองขาดเลือดแบบชั่วคราวอาจเกิดอาการขึ้นชั่วขณะแล้วหายไปเอง หรืออาจเกิดอาการขึ้นหลายครั้งก่อนจะมีอาการสมองขาดเลือดอย่างถาวร

ผู้ป่วยต้องสังเกต และรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด จะช่วยลดการเสียชีวิต และความพิการ ปัจจุบันมีกระบวนการรักษาทั้งการให้ยา ฉีดละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง และการรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือดสมอง หากเป็นหลอดเลือดเส้นใหญ่อุดตันภายใน 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ สถาบันประสาทวิทยาได้จัดกิจกรรมวันโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Day) ประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการ เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง และตรวจหาปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง วัดความดันโลหิต รวมทั้งตรวจพิเศษสำหรับผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ได้แก่ ตรวจระดับไขมันในเลือด ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 12 ชั่วโมง) 150 คน ตรวจหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ 50 คน และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจสำหรับบุคคลที่ชีพจรเต้นผิดจังหว นอกจากนี้ยังมีการอภิปรายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ณ ห้องประชุม ชั้น 9 สำนักงานเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

Related Posts

Send this to a friend