ผอ.ศปก.ศบค.ยอมรับสัปดาห์หน้าตัวเลขผู้ติดเชื่อจะสูงขึ้นอีก เตรียมพร้อมมาตรการรองรับ ยืนยัน ศบค.มีประสิทธิภาพ ไม่ล้มเหลว
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ผอ.ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่าจากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงทำลายสถิติว่าเช้าวันนี้ (2 ก.ค. 64) กระทรวงสาธารณสุขกำลังรายงานการแก้ไขปัญหาเพื่อเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ต่อไป
พร้อมยอมรับว่าในสัปดาห์หน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะสูงขึ้นอีก ซึ่งเป็นไปตามการประเมินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ประเมินไว้ แต่ทั้งนี้จะพยายามเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ให้มากขึ้น โดยเมื่อวัคซีนนำเข้ามาแล้วก็จะเร่งฉีดทันทีให้เร็วที่สุด คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเป็นในลักษณะนี้อีกสักระยะหนึ่ง แต่ขอความร่วมมือประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ โดยเฉพาะการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก เนื่องจากได้สั่งปิดแคมป์คนงานไปแล้ว ดังนั้นแรงงานต่างด้าวก็ไม่ได้อยู่นิ่งส่งผลให้ตัวเลขพุ่งสูงขึ้น จึงขอเน้นย้ำประชาชนที่พูดในลักษณะนี้ไม่ได้โทษประชาชนเมื่อพบว่าตัวเลขสูงขึ้นแต่เป็นการขอความร่วมมือให้ช่วยกันควบคุมการแพร่เชื้อด้วย
พลเอกณัฐพล กล่าวด้วยว่าแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังไม่มีการเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดไปกว่านี้เพราะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นห่วงความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากเห็นว่ามาตรการที่มีอยู่เพียงพอแล้ว แต่ต้องมีการขอความร่วมมือผู้ประกอบการต่าง ๆ และภาครัฐต้องลงรายละเอียดในมาตรการมากขึ้น ซึ่งทุกส่วนต้องร่วมมือกันควบคู่กันไป เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงไม่ให้มีการแพร่เชื้อ
สำหรับการรอเตียงของผู้ป่วยที่มีจำนวนมากภายหลังพบว่ามีการกระจายออกไปรักษานอกพื้นที่ กทม.นั้น พลเอกณัฐพลกล่าวว่าเป็นไปโดยธรรมชาติเมื่อประชาชนไม่สามารถรอเตียงได้ก็เดินทางกลับไปรักษายังภูมิลำเนาของตนเอง แต่ในระบบทางกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร พยายามเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มจำนวนเตียงให้ผู้ป่วย โดยวันนี้ที่โรงพยาบาลมณฑลทหารบกที่ 11 มีการเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงเพิ่มขึ้นและสามารถเปิดใช้บริการได้ภายในวันนี้ ขณะเดียวกันมีการปรับปรุงระบบการรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation เบื้องต้นให้มีระบบและมาตรฐานมากขึ้นไม่ได้ปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่ที่บ้านเฉยๆ แต่ต้องมีระบบในการรองรับที่ดีและมีความพร้อม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงว่าไม่มีระบบรองรับในการแยกกักตัวรักษาอยู่ที่บ้านอาจทำให้เสี่ยงอาการรุนแรงขึ้น จึงต้องมีระบบติดตามตรวจสอบให้พร้อมก่อน
ผอ.ศปก.ศบค. ย้ำว่า ขณะนี้รัฐบาลและ ศบค.พยายามวางแผนเพื่อที่จะรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องเพิ่มจำนวนเตียงให้มากขึ้น รวมถึงระบบการแยกกักตัวที่บ้าน โดย ศบค.วางแผนและคิดไว้ทุกระบบทุกอย่าง หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันและทุ่มเทให้มากขึ้นก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเสนอให้มีการยุบ ศบค.เนื่องจากทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และล้มเหลวนั้นพลเอกณัฐพล กล่าวว่าตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าวแต่ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของ ศบค.ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่เป็นผอ.ศบค.และเป็นผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาอย่างเหมาะสม ส่วนตัวไม่ขอแสดงความเห็น แต่ขอให้มั่นใจว่าการทำงานของ ศบค.ที่ผ่านมาสามารถที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ได้ เพราะคำว่า ศบค.มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขที่ ศบค.ต้องรับฟังความคิดเห็นมากที่สุด ไม่ใช่การตัดสินใจเพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้น และขณะนี้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในไทยมาเป็นระลอกๆ และมีหลายสายพันธุ์กลายพันธุ์เข้ามาซึ่งทำให้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะการณ์ตลอดเวลาแต่ทุกคนทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ จึงขอให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ทำงานทั่วประเทศ
ส่วนข้อเรียกร้องของแพทย์และพยาบาลที่ต้องการวัคซีนเข็มที่ 3 นั้นขณะนี้ ศบค.อยู่ระหว่างการพิจารณากับกระทรวงสาธารณสุขอยู่ แต่ขณะนี้ต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้กับทุกคนก่อนเนื่องจากมีความจำกัดในเรื่องของวัคซีนและส่วนของประชาชนที่ยังไม่ได้รับเข็มแรกเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขั้นต้นก่อน ก่อนจะมีเข็มที่ 2 ตามมาส่วนเข็มที่ 3 นั้นยังไม่ได้พิจารณาถึงขั้นนั้นเพราะถือว่าวัคซีนยังไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนเข็มแรกให้ทั่วถึงก่อน