น.ส.ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมและทุนการศึกษา กสศ. กล่าวว่า ปัจจุบันกสศ. ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง MOU กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อดำเนินโครงการฯร่วมกันกับสถานศึกษาในสังกัดที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการระยะเวลา 12 ปี โดยตั้งเป้าดูแลนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงจนจบ 5 รุ่น เน้นที่นักเรียนมัธยมศึกษา ม.3 ม.6 ปวช. หรือเทียบเท่า ที่มีความยากจน 20% ล่างสุดของประเทศ เนื่องจากข้อมูลประเทศไทยมีเด็กเกิดปีละ 7 แสนคน ในจำนวนนี้พบว่ามี 20% เป็นคนที่จนที่สุดของประเทศ และในจำนวนนี้ มีเพียง 5% หรือประมาณ 8,000 คน ที่มีโอกาสเรียนสูงกว่าระดับม.6 ดังนั้นโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง จึงมุ่งส่งเสริมการศึกษาต่อที่เน้นในสายอาชีพที่สำคัญของประเทศที่มีความต้องการกำลังคน โดยจะมอบทุนจำนวน 2,500 ทุนต่อปี ซึ่งนอกจากการสร้างโอกาสให้เด็กยากจนแล้ว ทุนนี้ยังสนับสนุนทุนให้แก่สถานศึกษาที่ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเรื่องการยกระดับระบบการศึกษาสายอาชีพ เกิดเป็นต้นแบบและประเทศจะเข้มแข็งจากการที่มีกำลังคนในสายอาชีพเพิ่มขึ้น
น.ส.ธันว์ธิดา กล่าวว่า สำหรับการขอรับทุนโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ปี 2564 มี 2 แบบ คือ ทุน 5 ปี เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน ม.3 ได้เรียนปวช. ต่อเนื่องปวส. และ ทุน 1-2 ปี เพื่อส่งเสริมนักเรียน ม.6 หรือ ปวช. หรือเทียบเท่า ได้เรียนต่อระดับ ปวส. หรืออนุปริญญา หรือหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล 1 ปี โดย สถาบันการศึกษาสามารถเลือกแบบใดแบบหนึ่งได้หรือจะเสนอมาทั้ง 2 แบบก็ได้ อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติของสถานศึกษาที่สามารถส่งโครงการเข้ามานั้นมี 4 ส่วนสำคัญ คือ
1. เป็นสถานศึกษาที่มีการเปิดสอนระดับปวช. ปวส. และหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลทั่วประเทศ
2. มีความพร้อมและสนใจอยากทำงานเรื่องนี้กับกสศ.จริงๆ มีผู้บริหารโครงการ คณะทำงานที่ชัดเจนสามารถดูแลนักศึกษาทุนได้จนจบหลักสูตร
3. เป็นสถานศึกษาที่ทำงานกับสถานประกอบการหรือภาคอุตสาหกรรม มีการบูรณาการการเรียนรู้การทำงานนำไปสู่การพัฒนาความรู้และทักษะการทำงานให้แก่นักศึกษา
4. ถ้าเป็นสถานศึกษาที่มีโครงการผลิตบุคลากรให้กับผู้ประกอบการตามมาตรฐาน และมีการประกันการมีงานทำของผู้ได้รับทุน จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ