AIS Academy จับมือ ศธ. เปิดตัวโครงการ “THE EDUCATORS THAILAND”
AIS Academy ร่วมกับ ศธ. เปิดตัวโครงการ “THE EDUCATORS THAILAND” อบรมพัฒนาศักยภาพครูให้สอดรับกับการเรียนการสอนแบบ New Normal ด้วยการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม หวังช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในพื้นที่ห่างไกลอย่างยั่งยืน
วันนี้ (22 ก.ค. 64) AIS แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “THE EDUCATORS THAILAND” โดยร่วมมือกันกับกระทรวงศึกษาธิการ และบุคลากรทางการศึกษาชั้นนำของประเทศ เพื่อพัฒนาศักยภาพของครูไทย ในการพัฒนาหลักสูตร ต่อยอดทักษะการออกแบบสื่อการเรียนการสอนยุคใหม่ ให้สอดรับกับการศึกษาในยุคดิจิทัลแบบครบวงจร
โดยโครงการ “THE EDUCATORS THAILAND” นับเป็นครั้งแรกที่ได้เปิดเวทีให้บุคลากรด้านการศึกษากว่า 1,000 คน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น นักการศึกษา, ครูผู้สอน, บุคลากรด้านการศึกษาทุกสังกัด และนักศึกษาฝึกสอน มาเข้าร่วม Un Learn และ Re Learn ทักษะการสอน ผ่านหลักสูตรที่ถูกออกแบบและพัฒนาโดย AIS Academy ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยบุคลากรชั้นนำในวงการ ที่มีเนื้อหาในการพัฒนาทักษะ การสร้างนวัตกรรมการสอน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของภาคการศึกษายุคใหม่ให้สอดคล้องกับการบ่มเพาะนักเรียนในยุค Learn Fron Home (LFH)
นายกานต์ ตระกูลฮุน ประธานกรรมการ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบ ในภาคการศึกษา เด็กนักเรียนต้องปรับตัวกับการเรียนแบบ LFH ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทั้งนักเรียน ครูผู้สอน และครอบครัว ต่างต้องปรับตัว ให้เข้ากับการเรียนในรูปแบบ New Normal
อย่างไรก็ตาม ด้วยบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่มีโควิด-19 เข้ามา แต่การพัฒนาของเทคโนโลยี จะส่งผลให้รูปแบบการเรียนรู้ด้วยตัวเองนอกห้องเรียนหรือการเรียนออนไลน์ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้น ครูผู้สอน ซึ่งเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่สุด จึงต้องมีการพัฒนาศักยภาพให้เข้ากับเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นตัวช่วยพัฒนาการศึกษา จึงเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา
ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า AIS มีทรัพยากรทางเทคโนโลยี ที่เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม ไว้สำหรับให้บริการประชาชน และมีแนวคิดที่อยากจะนำมาใช้ช่วยพัฒนาประเทศชาติ โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเรื่องการศึกษามีความสำคัญ และหัวใจสำคัญของภาคการศึกษา ก็คือครูผู้สอน ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนลูกศิษย์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ครูต้องพัฒนาตนเอง เพื่อต่อยอดจุดประกายไปสอนเด็กรุ่นใหม่ต่อไปได้
สำหรับโครงการนี้ จะเป็นการคัดเลือกครูกว่า 1,000 คน เข้ามาอบรมในรูปแบบออนไลน์บนแพลตฟอร์ม LearnDi เสริมความรู้ในการพัฒนาทักษะ การสร้างนวัตกรรมการสอน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของภาคการศึกษายุคใหม่ โดยมีเนื้อหาภาคทฤษฎีทั้งหมด 5 หลักสูตร ได้แก่
- ภูมิทัศน์ของการเรียนในอนาคต องค์ประกอบของการเรียนออนไลน์ สือการสอนออนไลน์ ระบบ LMS และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน
- การวิเคราะห์เนื้อหา และวิธีการเรียนออนไลน์
- กลยุทธ์การสอนออนไลน์ การสอนแบบผู้เรียนอิสระ การสอนโดยใช้กิจกรรมกลุ่ม การออกแบบการสอน
- การผลิตวิดีโอออนไลน์ สำหรับการศึกษา
- การวัดประเมินผลออนไลน์ การวัดความรู้ การวัดทักษะ การวัดทัศนคติ
เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ครูที่เข้าร่วมโครงการจะต้องสอบวัดผล และได้รับใบประกาศนียบัตรและ Digital Credential Badge จาก AIS Academy ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองคุณวุฒิระดับสากล และจะได้เข้าร่วม Workshop ในภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการผลิตวิดีโอสำหรับการสอนออนไลน์ และจัดทำผลงานของตนเองขึ้น โดยผลงานที่ได้รางวัลชนะเลิศจำนวน 10 รางวัล จะได้รับถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้ ดร. ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า จุดอ่อนของภาคการศึกษาในขณะนี้ ก็คือเรื่องของความเหลื่อมล้ำในแต่ละพื้นที่ แต่หากครูมีความมุ่งมั่น มีจิตวิญญาณความเป็นครู จะเกิดความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่ ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากคือครูเองก็ต้องการโค้ช ดังนั้น โครงการของ AIS Academy เป็นสิ่งที่ AIS ได้ทดลองมาแล้วภายในองค์กรและได้ผลดี และนำมาต่อยอดในแวดวงการศึกษา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องร่วมมือกันต่อไป
ส่วนการปรับตัว พัฒนาศักยภาพของครูผู้สอนนั้น ดร. ดิศกุล กล่าวว่า ครูต้องพัฒนาตนเองเพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดได้ พัฒนา Mindset ที่มีอยู่ ต้องมีกระบวนทัศน์ในการรับการเปลี่ยนแปลง ต้องออกแบบการเรียนการสอนได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งการเข้าสู่การเรียนรู้ของ AIS Academy จะทำให้ครูสามารถสร้างสื่อการเรียนการสอนด้วยตนเองได้โดยใช้ทักษะในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ซึ่งมีความจำเป็นมากขึ้นในปัจจุบัน
ขณะที่ นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ Intouch, กรรมการ บริษัท เลิร์นดิ จำกัด กล่าวว่า ผลงานที่ได้รางวัลชนะเลิศทั้ง 10 ผลงาน AIS Acedamy จะนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างองค์ความรู้ เกี่ยวกับการจัดทำสื่อการเรียนการสอน ให้กับครูที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือโรงเรียนในพื้นที่ชายขอบ เพื่อที่จะได้เข้าถึงคอนเทนต์ที่ผ่านการพัฒนาโดยครูที่ผ่านการอบรมมาแล้ว ดังนั้น LearnDi จึงจะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญ ที่จะเข้ามาช่วยให้การศึกษามีความครอบคลุมมากขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพราะสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง ด้วยการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม
นางสาวกานติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ มุ่งเน้นที่จะยกระดับขีดความสามารถในสังคม ภายใต้ภารกิจคิดเผื่อ เพื่อคนไทย ของ AIS Academy โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจุดที่สำคัญที่สุด คือการจุดประกายให้ภาคเอกชน ลุกขึ้นมาใช้ความแข็งแกร่งที่ตนเองมีอยู่
“การทำงานครั้งนี้จะเดินจากรุ่นสู่รุ่น ไม่มีเส้นตายที่ขีดจบแค่การชิงถ้วยรางวัล แต่จะเป็นการจุดประกายนำความรู้ไปส่งต่อ และการพัฒนาร่วมกันระหว่างทาง ได้ช่วยกันยกระดับขีดความสามารถ โครงการนี้จะช่วยทำให้มีความรู้เข้าใจในการใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะโอกาสทางการศึกษาสำคัญที่สุด เราคาดหวังจะได้เห็นการขยายตัวของโรงเรียนชายขอบ เพื่อที่คุณภาพของวงการการศึกษาไทย จะเดินต่อไปเรื่อยๆ ในทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป”