KNOWLEDGE

Sea ส่งต่อแรงบันดาลให้เด็กผู้หญิงคว้าโอกาสในสายอาชีพ STEM

Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มการีนา ช้อปปี้ และซีมันนี่ ร่วมกับ InsKru และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดตัวโครงการ “Women Made: Girl in STEM” ส่งต่อแรงบันดาลใจให้เด็กผู้หญิงที่มีความสนใจศึกษาต่อในสาขาอาชีพ STEM ผ่านการจัดกิจกรรม Day Camp เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ณ อาคารสราญวิทย์ (อาคาร 12) สวทช.

ภายในงานมีเวทีเสวนาแบ่งปันประสบการณ์จริงจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพ STEM รวมถึงกิจกรรม “ห้องสมุดมนุษย์” (Human Library) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พูดคุยกับคนทำงานจริงในแวดวง STEM รวม 9 อาชีพ ได้แก่ โปรแกรมเมอร์ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล วิศวกรด้านความมั่นคงและปลอดภัยทางไซเบอร์ นักวิจัยนาโนเทคโนโลยี วิศวกรเสียง นักนิติวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์เภสัชวิทยาภูมิคุ้มกัน วิศวกรการบินและอวกาศ และนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร

นางพุทธวรรณ สุภัทรนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า สาขาอาชีพ STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นกลุ่มอาชีพที่ทวีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ และยังมีความต้องการบุคคลากรอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จำนวนของผู้หญิงที่ประกอบอาชีพในสาขา STEM ยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย พิจารณาจากรายงานดัชนีช่องว่างระหว่างเพศ ประจำปี 2566 โดยสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ซึ่งระบุว่า กลุ่มอาชีพ STEM มีเพียงร้อยละ 29.2 เท่านั้นที่เป็นแรงงานหญิง ต่างจากสายอาชีพนอกกลุ่ม STEM ซึ่งมีแรงงานหญิงร้อยละ 49.3

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาและงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่พบว่าเด็กผู้หญิงมักจะมีความสนใจด้าน STEM ในระดับเดียวกันกับผู้ชายในระดับประถม แต่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากพบความท้าทายทั้งในระดับปัจเจกและสังคม จึงนำมาสู่การริเริ่มโครงการ Women Made: Girl in STEM ในครั้งนี้

นางสาวภวิษย์พร เจียรประเสริฐ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การสร้างเครือข่ายสนับสนุนผู้หญิงมีความสำคัญมาก เนื่องจากสังคมไทยยังขาดคนต้นแบบที่จะมาช่วยชะล้างภาพจำในอดีตว่าอาชีพนี้เหมาะกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทเทคโนโลยี เชื่อว่าสิ่งสำคัญคือจะต้องมี Mindset ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองและพากเพียรที่จะพัฒนาตัวเองไปสู่จุดหมาย ในขณะเดียวกันก็จะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนให้สังคมและโลกของการทำงานเป็นพื้นที่ที่เป็นมิตรกับทุก ๆ คน

นางฤทัย จงสฤษดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิชาการ หลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า STEM Education จะช่วยเตรียมเด็กและเยาวชนให้เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมหาศาล ที่สำคัญครูมีบทบาทในการแนะแนวอาชีพที่ต้องการทักษะ STEM และเปลี่ยนการเรียนรู้ให้เป็นแบบบูรณาการ แสดงให้เห็นว่า STEM เชื่อมโยงกันในการแก้ปัญหาจริง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการสะเต็ม การใช้เทคโนโลยีในการสอน และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจตลอดจนพัฒนาทักษะสำคัญสำหรับเด็ก

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat