FEATURE

รับมือวาเลนไทน์ เปลี่ยนวันแห่งความคาดหวังให้เป็นวันธรรมดา

เปลี่ยนความเครียดและการคาดหวัง เป็นพลังแห่งการแสดงความรัก ในวันวาเลนไทน์อย่างสร้างสรรค์กันดีกว่า เพราะ 14 กุมภาฯที่จะมาถึงนี้ ทั้งคนที่มีคู่หรือแม้แต่คนโสด ย่อมต้องการการแสดงออกของคนรักและความรัก ในรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป บางคนต้องการของขวัญแทนใจ หรือบางคู่ต้องการออกเดทด้วยดินเนอร์มื้อหรู บางคู่อยากชวนคนรักไปในสถานที่โรแมนติก หรือแม้แต่คนโสดก็ต้องการมีคู่หรืออยากได้ดอกไม้สักช่อ แต่ทว่าเมื่อไรที่เราคาดหวังทุกอย่างมักจะผิดหวัง ดังนั้นการเดินทางสายกลาง ถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้ทั้งคนมีคู่และคนโสด สามารถรับมือกับวันวาเลนไทน์ ได้อย่างมีความสุขและอินเทรนด์ ไปกับเทศกาลสุดหวานนี้ได้แบบเริ่ดๆ

The Reporters ได้พูดคุยกับ “พี่แอ้-พรวรินทร์ นุตราวงศ์” พยาบาลวิชาชีพจิตอาสา จากชมรมพยาบาลแบบประคับประคอง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับวิธีคิด และไลฟ์สไตล์มุมบวก กับเกี่ยวกับเทศกาลแห่งความรักไว้น่าสนใจ โดยเฉพาะความเครียดที่เกิดจากคาดหวัง เกี่ยวกับแสดงออกของคู่รักในวันแห่งความรักนี้ หรือแม้แต่คนโสดก็มีความกังวลใจไม่แพ้กัน หากวันที่ 14 กุมภาพันธ์มาถึง รวมถึงประเด็นเพศสัมพันธ์ในวันแห่งความรัก ค่านิยมของวัยรุ่นก่อน ที่วัยรุ่นยุคเจน Z สามารถพลิกแพลงให้เป็นแง่มุมบวก ในการสร้างสติ และพลังในการเห็นคุณค่าของตัวเอง เพื่อให้วัยรุ่นยุค Y2K อยู่กับวันวาเลนไทน์ได้แบบไม่ซ้ำใคร พร้อมกันนี้ “น้องธัญ-ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์” นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ตัวแทนคนรุ่นใหม่มาให้มุมมอง เกี่ยวกับการปรับทัศนคติ เกี่ยวกับความคาดหวังและความเครียด ในวันแห่งความรักไว้น่าสนใจ

พรวรินทร์ ให้ข้อมูลว่า “วิธีรับมือกับความเครียดและความหวัง ในวันวาเลนไทน์ที่ดีที่สุดนั้น อยากให้วัยรุ่นรักตัวเองให้เป็นก่อน เพราะถ้าเด็กๆรู้จักการรักตัวเองเป็น ถึงจะรักผู้อื่นได้ และถามว่าความรักของเด็กวัยรุ่นคืออะไร ซึ่งวัยรุ่นมักจะมองว่าความรักคือคำว่าเพศหนุ่มสาว ดังนั้นสิ่งสำคัญเด็กๆต้องรู้จักรักตัวเองให้เป็นก่อน หมายถึงการรักทุกอย่างที่เกี่ยวตัวเอง เช่น รักคุณพ่อคุณแม่พี่น้อง หรือรักในการเรียน และรักในหน้าที่ประจำในฐานะลูก หรือรักในกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่เราชอบ รักสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ฯลฯ ทั้งนี้หากน้องๆสามารถที่จะรักสิ่งที่อยู่รอบตัวเองได้แล้ว เมื่อนั้นเราก็จะรู้จักรักผู้อื่นเป็น แต่ถ้าเรายังรักตัวเองไม่เป็น ก็จะไม่สามารถมีความรักที่สมบูรณ์แบบได้ เพราะเราไม่รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร”

“นอกจากการรักตัวเองให้เป็นแล้ว เด็กๆต้องรู้ว่าความรักคืออะไร ซึ่งความรักนั้นไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์ เพราะความหมายของความรักคือความสวยงาม ดังนั้นการที่คนมีความรักต่อกัน ย่อมเป็นสิ่งที่คนทั้งคู่พร้อมที่จะมอบสิ่งดีๆให้อีกฝ่าย และอีกฝ่ายก็รับความรักที่มีต่อกันอย่างสวยงาม ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์จึงไม่ใช่สิ่งตอบแทนหรือเป็นสิ่งที่แลกความรัก เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ถือเป็นความรักที่มาพร้อมกับความหวัง ซึ่งภายหลังเขาอาจจะไม่ได้รักเราก็เป็นได้ เพราะไม่ใช่ความรักที่แท้จริง เนื่องจากความรักที่แท้จริงเป็นสิ่งที่สวยงาม และให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนค่ะ”

ไม่คาดหวังไม่ผิดหวัง คติสอนใจวัยรุ่นวัยทำงานในวันแห่งความรัก

“วัยรุ่นมักจะเป็นวัยที่คาดหวังรุนแรง เมื่อไม่ได้ดังที่หวังไว้ก็มักจะผิดหวังรุ่นแรงเช่นกัน ทั้งนี้วิธีรับมือที่ดีที่สุดทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน รวมถึงคนโสดเองก็ตาม คือการไม่คาดหวัง ทั้งดอกไม้ การเซอร์ไพรส์ของคู่รักในวันดังกล่าว แต่แนะนำว่าเราอยู่ได้อย่างไร ก็ควรที่จะอยู่อย่างนั้น หรืออย่าให้ความสำคัญกับวันนี้ แต่ให้คิดว่าวันนี้เป็นวันธรรมดา หรือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นแค่วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ฯลฯ เท่านั้นเอง และให้คิดว่าวันอื่นๆที่เราไม่มีดอกกุหลาบก็ยังสามารถอยู่ได้ ดังนั้นวันนี้เราก็ต้องอยู่ได้เช่นกัน หรือหากต้องการอยู่ในห่วง ของเทศกาลแห่งความรักก็ทำได้ เพราะไม่ได้ผิดอะไร ในเมื่อไม่มีคนให้ดอกไม้เรา เราก็สามารถซื้อดอกไม้ให้ตัวเองได้ และสามารถนำไปอวดผู้อื่นได้ ทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเองได้อย่างง่ายๆ ในวันหลอกๆ 1 วัน เพราะพรุ่งนี้มันก็จะผ่านไปแล้ว ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม”

“หรือซื้อดอกไม้ให้กันเองในกลุ่มเพื่อนที่โสด เพราะความรักไม่จำกัดอยู่แค่หญิงชาย แต่การให้ดอกไม้ระหว่างเพื่อน ก็เป็นการแสดงความรักได้เช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าความรัก ของคนวัยทำงานจะต่างกับวัยรุ่นหนุ่มสาว เนื่องจากเป็นความรักที่มาพร้อมกับสมองและความคิด แต่เด็กๆวัยรุ่นก็สามารถนำหลักคิดนี้ไปใช้ได้ เพื่อลดความหวังและลดเครียด หากว่าแฟนไม่ซื้อดอกไม้ หรือไม่ซื้อของวันวาเลนไทน์ให้เรา แต่น้องๆสามารถสร้างความสุขเล็กๆน้อยให้ตัวเองได้ เช่น ซื้อดอกให้ตัวเอง หรือซื้อดอกไม้ให้เพื่อนสนิทที่ยังโสด เพราะอันที่จริงแล้วความสุขอยู่ใกล้ตัวเรา และเราสามารถสร้างเองได้ค่ะ”

แปรค่าดอกไม้ และช็อกโกแลตวาเลนไทน์ ช่วยสร้างความสุขให้คนอยู่รอบตัว

ในช่วงวาเลนไทน์นั้นแน่นอนว่า ดอกกุหลาบจะค่อนข้างมีราคาสูงถึงหลัก 100 บาท ดังนั้นคู่รักวัยรุ่นสามารถนำเงิน 100 บาท ไปซื้อขนมที่น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 10 ชิ้น เพื่อแจกเด็กๆหรือน้องในชุมชนที่ยากจนหรือมีฐานะปานกลาง ก็ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และสร้างความสุขให้กับเด็กๆกลุ่มนี้ ได้ไม่ต่ำกว่า 10 คนเช่นเดียวกัน หรือแปรค่าดอกไม้วาเลนไทน์ ให้เป็นความสุขกับสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่น การนำเงินดังกล่าวไปทำบุญกับวัดใกล้บ้าน เพื่อเป็นค่าน้ำค่าไฟให้กับทางวัด หรือแทนที่เงิน 100 บาทจะซื้อดอกไม้ ก็สามารถซื้อลอตเตอรี่ของคุณลุงพิการ ซึ่งไม่เป็นเพียงการช่วยคนยากไร้ได้มีอาชีพ แต่น้องๆอาจจะได้ผลประโยชน์จากการถูกรางวัลเป็นต้น และสามารถนำเงินดังกล่าวไปซื้ออุปกรณ์การเรียน หรือใช้ในการเรียนหนังสืออีกด้วย

บอกลาของขวัญแพง เห็นคุณค่าของสิ่งที่จะให้ ช่วยวัยรุ่น Y2K ไม่ทำอะไรเกินตัว

ถามว่าวัยรุ่นสามารถปรับกิจกรรมวาเลนไทน์ จากกินข้าวกับแฟน มากินข้าวกับพ่อแม่นั้น เนื่องจากเด็กวัยนี้เมื่อมีแฟน ก็มักจะไม่อยากรับประทานข้าวกับครอบครัว ทั้งนี้เด็กๆสามารถไปกินข้าวกับแฟนได้ เนื่องจากเป็นวัยของเขา แต่ไม่ควรจะเป็นอาหารมื้อที่มีราคาแพง หรือค่าอาหารตกหัวละเกิน 1,000 บาท แต่ให้เปลี่ยนเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว หรือร้านอาหารทั่วไปที่อร่อยและอยู่ในราคาหลัก 100 บาท ที่เราเคยไปนั่งกินกันครั้งแรกวันที่ตกลงเป็นแฟนกัน หรือเพื่อให้รำลึกถึงความหลัง ของวันแรกที่รักก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าเด็กบางคนหรือคู่รักวัยทำงานบางคน จะสามารถจ่ายได้ แต่อันที่จริงแล้วการดินเนอร์หัวละ 1,000 บาทนั้นไม่จำเป็น เพราะการที่เราเห็นคุณค่าของตัวเอง ด้วยการกินใช้เท่าที่เรามีหรือหาได้ จะทำให้เราไม่ใช้จ่ายเกินตัว และนั่นจะทำให้เรามอบสิ่งดีๆให้ผู้อื่นในแบบที่พอดีเช่นกัน เพราะการเห็นค่าในตัวเอง เด็กๆจะไม่ทำอะไรเกินเลยไปนั่นเอง

ดอกไม้ช่อใหญ่สุดแพงสุด ของขวัญ ช็อกโกแลตวันวาเลนไทน์ ดินเนอร์หรู เซอร์ไพรส์จัดเต็มคาราเบล ยังให้กันได้หรือไม่? เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้เป็นค่านิยม และเป็นสัญลักษณ์ในวันแห่งความรัก เราสามารถที่จะมอบให้คนรักหรือไม่ให้ก็ได้ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าเราให้ด้วยความกะเบียดเกษียณ นั่นแปลว่าเราไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่จะให้ผู้อื่น เช่น ถ้าเราให้ช็อกโกแลตแท่งละเกือบ 100 บาท ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หรือเป็นช็อกโกแลตแท่งเล็กๆ หรือดอกไม้เพียงดอกเดียว เด็กๆอาจจะต้องคิดว่า มันคุ้มค่ากับเงินที่เราต้องเสียไปหรือไม่ และหากคิดในมุมกลับกันเงิน 100 บาท เรานำมาซื้อน้ำอัดลม 1 กระป๋องราคาไม่เกิน 20 บาทและแบ่งกันดื่ม 2 คน และถ่ายเซลฟี่รูปคู่ไว้เป็นที่ระลึกวันวาเลนไทน์ ก็ถือว่าเป็นการแสดงความรักที่น่ารัก และแปลกไม่เหมือนใคร เพราะอันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ตรงนี้ไม่เพียงทำให้เด็กเห็นคุณค่าของสิ่งที่จะให้ ว่าคุ้มค่าการเงินที่เราต้องจ่ายไปหรือไม่ แต่ยังช่วยลดการฟุ้งเฟ้อ ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีได้เช่นเดียวกัน

ด้าน ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ให้มุมมองว่า “ ส่วนตัวธัญมองว่าการแสดงความรักระหว่างกัน ในวันวาเลนไทน์นั้น หลายคนอาจต้องการอยู่ด้วยกัน หรือทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกัน เช่น ไปเที่ยวด้วยกันกับคู่รัก ซึ่งเป็นมุมมองที่หลายคนต้องการ และไม่ใช่เรื่องผิด เพราะมันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่อีกมุมหนึ่งธัญมองว่า เราสามารถทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆก็ได้เช่นเดียวกัน เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อนสนิท เพราะความรักนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนรักของเรา แต่เราสามารถไปกับเพื่อนในวันวาเลนไทน์ได้ เช่น กินข้าวหรือสังสรรค์กับเพื่อน เพราะสุดท้ายเรากับคู่รักก็ยังรักได้ต่อไป เพียงแค่เรามองว่าวันวาเลนไทน์ เราทำกิจกรรมกับคนที่รัก ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวเป็นต้น หรือยกตัวอย่างว่าปัจจุบันคนใส่เสื้อขาวก็สามารถร่วมงานตรุษจีนได้ ทั้งที่สมัยก่อนต้องใส่เสื้อผ้าสีแดงเท่านั้น ส่วนดอกไม้หรือช็อกโกแลตนั้นเป็นสัญลักษณ์ของวันแห่งความรัก มันเป็นฟิลคล้ายๆกับวันตรุษจีน ที่เราก็ยังอยากได้อั่งเปาอยู่ วันวาเลนไทนก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจจะไม่จำเป็นต้อง เป็นดอกไม้ที่ดีที่สุดหรือแพงที่สุด เป็นอะไรก็ได้ที่เราสะดวก แฮปปี้ และไม่เดือนร้อนทั้งตัวเองผู้อื่นค่ะ”

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat