ครั้งแรกในประเทศไทย กับ World Class Installation Art สุดยอดประติมากรรมระดับโลกสร้างสรรค์โดย “SOFTlab” ศิลปินระดับโลกชาวนิวยอร์ก กับผลงานชื่อ “Infinity Forest” ประติมากรรมกลุ่มแท่งไฟเรืองแสง interactive ตั้งเด่นบนนภาลัย เทอร์เรซ ชั้น 7 ไอคอนสยาม ส่องแสงสวยงามยามค่ำคืน
ผลงานชุดใหม่ “Infinity Forest” ที่อวดโฉมให้คนไทยได้ชื่นชมและมาถ่ายภาพสุดประทับใจ โดย มร. ไมเคิล ซีวอส (Michael Szivos) เจ้าของและผู้ก่อตั้ง SOFTlab บอกเล่าถึงผลงานประติมากรรมนี้ว่า ผู้มาเยี่ยมชมสามารถมองผ่านเข้าไปในกระจกและสามารถเห็นพื้นที่โดยรอบได้ทั้งหมด ตั้งแต่ท้องฟ้าของกรุงเทพมหานคร สายน้ำ และตัวเอง ซึ่งทั้งหมดจะผสมผสานออกมาเป็นความสมบูรณ์แบบที่ลงตัวที่สุด และเมื่อทุกคนเดินเข้าไปในประติมากรรมชิ้นนี้ ทุกคนจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นงานกับการสะท้อนตัวเองในมุมที่แตกต่างกัน และยังสามารถถ่ายรูปได้อย่างสนุกในมุมสะท้อน เหมือนภาพซ้อนภาพ เรียกว่า ปรากฏการณ์โดรสต์ Droste Effect เป็นความสัมพันธ์เวียนเกิดที่ปรากฏในรูปแบบศิลปะ โดยมีลักษณะการวาดรูปลักษณะเดิมซ้ำแต่มีขนาดเล็กกว่าในรูปนั้นๆ และในรูปเล็กก็มีรูปเดียวกันอีกรูปหนึ่งปรากฏอยู่ เป็นชั้นๆ ไปเรื่อยๆ และเมื่อเข้าสู่ตอนกลางคืนกระจกจะแสดงแสงไฟ LEDs ที่เล่นพร้อมกับจังหวะของเสียงเพลง เสมือนเป็นการสะท้อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด ให้คุณได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่สวยงามบนโค้งน้ำเจ้าพระยาอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น กับสุดยอดฟิกเกอร์เรืองแสง ‘Fantastic Planet‘ 2 หุ่นยักษ์ ในชื่อว่า “Peeping Corner” & “What’s that” ซึ่งเป็น Giant Illuminated Humanoid Figures ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนริเวอร์ พาร์ค ให้ผู้ผ่านไปมาได้ถ่ายภาพกับหุ่นเรืองแสงขนาดยักษ์ สูงกว่า 7 เมตร จำนวน 2 ตัว อวดโฉมกลางริมน้ำเจ้าพระยาครั้งแรกในประเทศไทย
‘Fantastic Planet‘ ออกแบบโดยศิลปินทัศนศิลป์จากออสเตรเลีย “Amanda Parer” โดยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างหุ่นเรืองแสงยักษ์นี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Planet ของเช็ก/ ฝรั่งเศส ในปี 1973 ภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์แนวสต็อปโมชั่นกำกับโดย René Laloux ที่ถ่ายทอดเรื่องราวอนาคตอันไกลโพ้นในโลกแห่งมนุษย์ขนาดมหึมา ซึ่งทุกคนจะได้พบกับ สองหุ่นเรืองแสงยักษ์ขนาดมหึมา อวดโฉมให้ถ่ายภาพกัน ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน – 25 ธันวาคม 2563