แสดงจุดยืนบนเวที UN Ocean Conference มุ่งแก้ปัญหาทะเลอย่างยั่งยืน
วานนี้ (28 มิ.ย.65) ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปรตุเกส นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยมหาสมุทร ครั้งที่ 2 หรือ 2022 UN Ocean Conference ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2565 โดย ได้ร่วมขึ้นกล่าวถ้อยแถลง แสดงบทบาทท่าทีของประเทศไทย ตอกย้ำความก้าวหน้าในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทยอย่างก้าวกระโดด พร้อมแสดงจุดยืนยกระดับการดำเนินงานเสริมประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14 อย่างเป็นรูปธรรม
นายวราวุธ ยังได้เน้นย้ำกับทุกประเทศภาคีสมาชิกฯ ให้ตระหนักถึงประเด็นที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ โดยเรียกร้องให้มีการสนับสนุนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และให้ความสำคัญกับนโยบายทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการสนับสนุนทางด้านการเงิน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเทคโนโลยี ทั้งยังได้ให้คำมั่นในการดำเนินการจัดการทะเลและมหาสมุทรบนฐานของความเป็นธรรมชาติ (Nature – based) และศักยภาพของระบบนิเวศ เพื่อการจัดการอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการจัดการขยะทะเล การแก้ไขปัญหามลพิษทางทะเล การจัดการความเป็นกรดในมหาสมุทร และการจัดการประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing)
ซึ่งประเทศไทยมีผลการดำเนินงานค่อนข้างโดดเด่นอย่างมาก ที่สำคัญ ประเทศไทยยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานประสานทศวรรษแห่งมหาสมุทร จาก UNESCO ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของนานาประเทศถึงความพร้อมของไทยในการเป็นหน่วยประสานและขับเคลื่อนการดำเนินงานในช่วงทศวรรษแห่งมหาสมุทร ในปี ค.ศ. 2021 – 2030
สำหรับการประชุม UN Ocean Conference ในครั้งนี้ มีประเทศภาคีสมาชิกสหประชาชาติเข้าร่วมกว่า 193 ประเทศ องค์กรภาคเอกชนและองค์กรที่ไม่ใช่องค์กรภาครัฐอีกกว่า 600 องค์กรจากทั่วโลก มีเคนยาและโปรตุเกสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากการประชุมครั้งแรกที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 2017 เพื่อกระตุ้นและยกระดับการทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของโลก ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์จากการประชุมครั้งนี้ ทุกประเทศภาคีสมาชิกจะได้ร่วมรับรองปฏิญญาทางการเมืองเพื่อการเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งประเทศไทย มีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นหน่วยงานกลางในการประสานและขับเคลื่อนการดำเนินงาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 20 หน่วยงาน มีการรายงานผลการดำเนินงาน และพัฒนาการแบบก้าวกระโดดของประเทศไทย ผ่านกลไกคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทางทะเลและชายฝั่ง ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน