ทส. ประชุม คปช. เร่งแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนนิคม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลดความเดือดร้อนให้ประชาชน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ (คปช.) ครั้งที่ 1/2566 เพื่อเร่งขับเคลื่อน 3 เรื่องสำคัญ ทั้งผลการทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และเพิกถอนพื้นที่ทับซ้อนบางส่วนของป่ากุยบุรี ป่าแม่ตาล ป่าแม่ยุย ป่าแม่หาด เพื่อช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Conference
สำหรับ การประชุม คปช.ได้พิจารณาการทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. 2560 กำหนดให้มีการทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติทุก 3 ปี ซึ่งครบกำหนดที่ต้องมีการทบทวนตามระเบียบดังกล่าว ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการไม่มีการปรับปรุงนโยบายป่าไม้แห่งชาติ โดยให้คงวัตถุประสงค์ของนโยบายป่าไม้แห่งชาติ จำนวน 4 ประการ บทบัญญัตินโยบายป่าไม้แห่งชาติ จำนวน 24 ข้อ ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการจัดการป่าไม้ 2. ด้านการใช้ประโยชน์ผลิตผลและการบริการจากป่าไม้และอุตสาหกรรมป่าไม้ 3. ด้านการพัฒนาระบบบริหารและองค์กรเกี่ยวกับการป่าไม้ ไว้เช่นเดิม โดยได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี บางส่วน ในท้องที่ตำบลบ่อนอก ตำบลอ่าวน้อย ตำบลเกาะหลัก ตำบลคลองวาฬ ตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบการทับซ้อนของพื้นที่ดังกล่าวแล้ว พบว่าป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี ทับซ้อนพื้นที่นิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ประมาณ 56,605 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา ซึ่งได้มีการพิจารณาเห็นควรให้มีการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติบริเวณที่ทับซ้อนดังกล่าว รวมถึง ป่าแม่ตาล ป่าแม่ยุย และ ป่าแม่หาดบางส่วน เนื้อที่ประมาณ 31,106 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่มีสภาพป่า เนื้อที่ประมาณ 15,096 ไร่ ให้กันไว้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยให้อยู่ในความดูแลและรับผิดชอบของกรมป่าไม้ต่อไป