คพ.สั่งห้ามรับซื้อทองแดงที่ได้จากการเผาเด็ดขาด พร้อมฟันโทษจำและปรับ ทั้งคนเผา-คนรับซื้อ
คพ.สั่งผู้ประกอบการ ห้ามรับซื้อทองแดงที่ได้จากการเผาอย่างเด็ดขาด พร้อมฟันโทษจำและปรับ ทั้งคนเผา-คนรับซื้อ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยหลังติดตามการประกอบกิจการถอดแยกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเอาวัสดุมีค่าไปขายในหลายจังหวัด ว่า พบการเผาซากผลิตภัณฑ์และเศษวัสดุที่เหลือจากการคัดแยก เช่น สายไฟ จอภาพแอลซีดี เศษพลาสติก โฟมฉนวนตู้เย็น ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ทั้งฝุ่นละออง PM 2.5 ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ ก๊าซฟอสจีน และสารไดออกซิน ส่งผลกระทบต่อผู้ถอดแยกและประชาชนในชุมชนที่จะได้รับก๊าซพิษ หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่การรับสัมผัสต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายและเป็นสารก่อมะเร็ง
จากการติดตามยังพบว่า การเผาสายไฟขนาดเล็กในซากผลิตภัณฑ์เพื่อคัดแยกทองแดง ส่วนใหญ่ประชาชนจะรวบรวมไปเผาในบ่อขยะหรือตามที่รกร้าง จากนั้นจะคัดเอาทองแดงออกมาขายร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ และส่งต่อไปยังร้านรับซื้อของเก่ารายใหญ่ก่อนขายให้กับโรงหลอมและโรงงานรีไซเคิลทองแดง
กระทรวงทรัพย์ฯ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เทศบาลในพื้นที่เสี่ยง (จ.กาฬสินธุ์ , บุรีรัมย์ , อุบลราชธานี) สมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ผู้ประกอบกิจการร้านรับซื้อของเก่า ศูนย์รับซื้อทองแดง โรงหลอม และโรงงานรีไซเคิลทองแดง จึงได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาการเผาสายไฟขนาดเล็ก โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อควบคุมการเผาในที่โล่ง และให้ประกอบกิจการถอดแยกอย่างถูกต้อง ให้ผู้ประกอบกิจการร้านรับซื้อของเก่าและโรงงานรีไซเคิลทองแดง ส่งขายทองแดงที่ได้จากการเผาที่รับซื้อหรือมีครอบครองไว้ภายใน 60 วัน และให้ยกเลิกการรับซื้อทองแดงที่ได้จากการเผาอย่างเด็ดขาด
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกภาคส่วนเห็นด้วยและพร้อมให้ความร่วมมือตามแนวทางดังกล่าว โดยจะร่วมกันลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อแสดงเจตนารมย์ร่วมกัน ขณะที่ผู้เผาสายไฟจะมีความผิดหลายกฎหมาย เช่น พรบ.การสาธารณสุข , พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ ส่วนผู้ที่รับซื้อ อาจมีความผิดที่สนับสนุนการกระทำ ความผิดจะมีทั้งโทษทั้งจำคุกและปรับ จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือและร่วมกันในป้องกัน ควบคุมการคัดแยกทองแดงจากสายไฟให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
