แนะเด็กเล็กเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หลัง PM 2.5 ตอนบน ติดโซนแดง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ยังคงเกินมาตรฐานในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคคเหนือตอนบน คือ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก โดยเฉพาะที่ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ที่พบค่าฝุ่นสูง 140 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่
โดยภาพรวม ภาคเหนือตอนบนมีแม่ฮ่องสอนที่มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) สูงติดต่อกัน 11 วัน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กที่เป็นกลุ่มเปราะบาง โดยองค์การอนามัยโลกประมาณการณ์ว่า เด็กอายุ 0–5 ปี ทั่วโลก เสียชีวิตปีละกว่า 570,000 คน จากระบบภูมิคุ้มกันและปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ อีกทั้งเด็กจะมีอัตราการหายใจมากกว่าผู้ใหญ่ และมักเล่น อยู่กลางแจ้ง หากอยู่ใกล้แหล่งกำเนิด PM2.5 อาจก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก ซึ่งการเจ็บป่วยตั้งแต่วัยเด็ก ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยแบบเรื้อรังตลอดในช่วงวัยผู้ใหญ่ได้
นายแพทย์สุวรรณชัย ยังเปิดเผยฐานข้อมูลเฝ้าระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ (HDC) ของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2564 ว่า มีรายงานเด็กอายุ 0-9 ปี ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 27,550 ราย เฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจำนวน 2,688 ราย กรมอนามัยจึงขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังบุตรหลาย ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม เด็กมีเวลาทำกิจกรรมนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น ผู้ปกครองควรตรวจสภาพอากาศ หากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน ควรเปลี่ยนให้เด็กทำกิจกรรมในบ้านแทน สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ปิดประตูหน้าต่าง กินอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
หากเด็กมีอาการผิดปกติ เช่น ระคายเคืองผิวหนัง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก อึดอัดแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียน ให้รีบพาไปพบแพทย์ หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน สำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอด หรือโรคหัวใจ ให้พกยาติดตัวเสมอ