ENVIRONMENT

เปิดใจผู้ดูแลปางช้างตี๋ตี๋ มองดราม่าวิธีเลี้ยงช้างต่างวิธีแต่อธิบายได้ ไม่โจมตีกันดีกว่า

วันที่ 9 ต.ค.67 The Reporters ลงพื้นที่ปางช้างตี๋ตี๋ Tee Tee Elephant อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม คอกช้าง จุดให้บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ ต้นไม้ถูกน้ำป่าซัดเสียหาย เต็มไปด้วยดินโคลน และอยู่ระหว่างการฟื้นฟู

สมบัติ นาจู้ ผู้ดูแลปางช้างตี๋ตี๋ เปิดเผยว่าในวันที่ได้รับแจ้งเตือนว่าจะมีน้ำท่วม เขาพาช้าง 5 เชือก เป็นช้างโต 3 เชือก และช้างเล็ก 2 เชือก อพยพไปที่สูง จึงไม่มีช้างตาย แต่สภาพพื้นที่เสียหายทั้งหมด

สมบัติ มองกรณีดราม่า ที่เกิดขึ้นในวงการปางช้าง กรณีวิธีการเลี้ยงช้างนั้น สำหรับปางช้างของเขาเลี้ยงแบบอนุรักษ์ เพิ่งเปิดได้ 7 เดือน ซึ่งเลี้ยงแบบอิสระ แต่มีควาญ 3 คน ดูแล ช้าง 5 เชือก เขาจึงเข้าใจวิธีการเลี้ยงช้างทั้ง 2 แบบดี

“เวลานักท่องเที่ยวมา ถ้าเห็นช้างถูกมัด ตะขอ นักท่องเที่ยวจะกังวล ผมคิดว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะอธิบาย เพราะช้างอายุ 15-16 ปี ช้างเหมือนผู้หญิงเราที่มีประจำเดือน สัตว์ก็มีฮอร์โมน ทำให้แตกต่าง ช้างตัวผู้จะห้าวเหมือนเด็ก บางครั้งการใช้ตะขอมาอยู่ในขอบเขต ปลอดภัยในชุมชน กลางคืนเราก็มัดโซ่ เพราะช้างเป็นสัตว์ใหญ่ เวลาผมอธิบายนักท่องเที่ยวจะบอกแบบนี้ ในความเข้าใจผมอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะทุกคนมีมุมมองของตัวเอง”

สมบัติบอกว่า เขาจะทำความเข้าใจนักท่องเที่ยวว่าทำไมในไทยยังมีการใช้โซ่และตะขอ อย่างปางช้างของเขาแม้จะเลี้ยงแบบอิสระ และทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แต่บางครั้งเขาก็ต้องใช้โซ่บ้างเช่นในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องอธิบายกับนักท่องเที่ยว

“เรื่องพวกนี้ผมเชื่อว่าถ้าเราอธิบายได้ ก็จะดี ไม่จำเป็นไปโจมตีกันดีกว่า เราอาจเลี้ยงอนุรักษ์ แล้วจะว่าไปขี่ไม่ดี ซึ่งเจ้าของอาจจะกระทบ แต่จริงๆ ดีกว่าไหมถ้าใช้ตะขอพาเขาไปอาบน้ำได้ พาไปเดินเล่น ไม่งั้นช้างเองถ้าเราเข้าหายาก เป็นข้อเสียอย่างหนึ่งและเครียด”

สมบัติ ยอมรับว่า การมีประเด็นต่างชาติโจมตีช้างไทย ทำให้ควาญช้างและปางช้าง เป็นกังวล ที่ผ่านมาจึงมีการปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจปางช้างเดินต่อได้ ตนเองจึงเชื่อว่าการสร้างความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ และการสื่อสารของคนในพื้นที่ก็เป็นปัญหา โดยเฉพาะกับชาวบ้านปางช้างเล็กๆ ที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

“ถ้าเราเลี้ยงช้างแบบบ้านๆ เราจะขาดการสื่อสารสากล การอธิบายกับต่างชาติ เราอยากให้ปางเล็กๆ ไปต่อได้ ปางเราเป็นช้างเลี้ยง จากช้างลากซุง อยู่ในปางช้างที่เป็นช้างขี่ ช้างโชว์ เมื่อมาอยู่กับเราจึงได้ปรับรูปแบบมาเลี้ยงแบบอิสระขึ้น เพราะเรามีช้างไม่มาก ต้องทำแบบท่องเที่ยวด้วย และตอนนี้น้ำท่วมต้องฟื้นฟูอย่างมากด้วย ​

สมบัติ บอกว่า ปางตี๋ตี๋ จะมีกิจกรรม เช่นให้ข้อมูลประวัติช้างไทย เคยทำลากซุง แล้วต่อมาช้างตกงานเพราะตัดไม้ ช้างเลี้ยงอยู่ได้เพราะการท่องเที่ยว หลังจากมีการขี่ช้างเอาไปเร่ร่อนในเมือง จึงจัดการมาเป็นท่องเที่ยวปางช้าง ซึ่งกิจกรรม เช่น พาไปรู้จักลักษณะนิสัย เรื่องกิน ถ้าช้างได้กิน อารมณ์จะดีขึ้น เหมือนเรา ให้ทำวิตามิน ต้องพาเดินเป็นการออกกำลังกายด้วย มีอาบน้ำ และดูแลเรื่องสุขภาพ

สมบัติ จึงมองแบบเป็นกลางที่ทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวต่างๆ ที่มองเห็นการอนุรักษ์ช้างเป็นเรื่องสำคัญ และให้เหตุผลว่าทำไมบางครั้งยังต้องใช้เครื่องมือเพื่อความปลอดภัยของควาญและนักท่องเที่ยว และมองว่า การจัดการท่องเที่ยวในปางช้าง ยังเป็นทางออกสำคัญในการป้องกันไม่ให้นำช้างกลับไปเร่ร่อนและทรมานอีกแล้ว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat