ENVIRONMENT

ชาวม่อนแจ่ม ยื่นหนังสือ ทส. กรณีรื้อถอน ที่พักบนดอยม่อนแจ่ม

วันนี้ (6 ก.ย. 65) เวลา 12:00 น. ณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลุ่มประชาชนชาวม่อนแจ่ม นำโดย นายเอกนรินทร์ นทีไพรวัลย์ แกนนำกลุ่ม เข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมี นายภูมินภ์ห์ บุญบันดาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 1 เป็นตัวแทนผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน และตรวจสอบชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้นำกำลังบุกเข้ารื้อถอนที่พักบนดอยม่อนแจ่ม ภายหลังจากเมื่อช่วงเช้าได้ไปยื่นถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรมต่อกรณีดังกล่าว

นายเอกนรินทร์ กล่าวว่าวันนี้พวกเราชาวม่อนแจ่มได้รับความเดือดร้อนจากการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยกรมป่าไม้ และ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 1 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้จึงได้พาพี่น้องชาวม่อนแจ่มขึ้นมาให้ดูว่าลักษณะแบบนี้ใช่นายทุน หรือตัวแทนใครหรือเปล่า และได้มีการบุกรุกตามที่ รัฐมนตรีได้ให้ข้อมูลหรือไม่ ซึ่งวันนี้เดินทางมาถึงหน้ากระทรวง ก็หวังว่าท่านรัฐมนตรีจะลงมารับหนังสือด้วยตัวเอง แต่ไม่ทราบว่าอยู่ในกระทรวงหรือไม่ เพราะไม่เห็นว่าลงมารับหนังสือ

นายเอกนรินทร์ กล่าวต่อว่า อยากให้สื่อมวลชนได้เห็นว่าพวกเราถูกเลือกปฏิบัติขนาดไหน เดินทางมาถึงหน้ากระทรวง ก็ถูกเลือกปฎิบัติ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้เข้าไปข้างในกระทรวง ไม่ต่างอะไรกับตอนอยู่บนดอยม่อนแจ่ม เพราะถูกละเมิดสิทธิเหมือนกัน อาจเป็นเพราะพวกตนเองนั้นเกิดเป็นชาติพันธ์ุ จึงไม่ได้เข้าไปข้างใน ถ้าเกิดเป็นคนไทยคงได้เข้าไปข้างในกระทรวงแล้ว

“ประเทศไทยตอนนี้ ปี2022 แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐยังเลือกปฎิบัติกับกลุ่มชาติพันธุ์เหมือนเดิม หรือแม้แต่ทัศนคติของท่านก็ไม่เปลี่ยน ถึงได้กรีฑาทัพขึ้นไปรังแกเราถึงบนดอยตลอดเวลา” นายเอกนรินทร์กล่าว

“วันนี้เราขอนั่งยื่นหนังสือให้ เพราะพวกท่านก็ไม่เคยให้เกียรติใครอยู่แล้ว และพวกเราก็ไม่มีเกียรติอยู่แล้ว ท่านถึงได้กรีฑาทัพขึ้นไปรังแกเรา เหยียบย่ำเราถึงบนดอยม่อนแจ่ม หากเกินเวลาที่กำหนด และไม่มีความคืบหน้าต่อกรณีดังกล่าว ก็จะตั้งขบวนประชาชนเพื่อมาทวงถามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีก”

ด้านนายภูมินภ์ห์ ระบุว่า วันนี้เนื้อหาหลัก ๆ ที่ชาวม้งม่อนแจ่มมายื่นหนังสือในวันนี้มี 2 หัวข้อหลักคือ

  1. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมป่าไม้ ได้ดำเนินการตามคำวินิจฉัย ของประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และคำสั่ง คสช. ครบถ้วนถูกต้อง และเป็นธรรม กับประชาชนหรือไม่ รวมถึงเหตุใดกองกำลังของเจ้าหน้าที่ไปไล่จับประชาชนที่อยู่อาศัยทำกินในบริเวณพื้นที่ม่อนแจ่ม ประหนึ่งเห็นประชาชนเป็นศัตรูกับเจ้าหน้าที่รัฐ
  2. การประกาศแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม เมื่อปี พ.ศ. 2507 ทับที่หมู่บ้าน ชุมชน และที่ดินทำกิน โดยมิได้ทำการสำรวจรังวัดกันพื้นที่ดังกล่าวออกจากป่าก่อนการเป็นป่าสงวนแห่งชาติ กันเพียงบางส่วนที่ ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง มีความคลาดเคลื่อน บางส่วนกันพื้นที่ป่า และในการประกาศชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ โดยใช้ข้อมูลเส้นชั้นความสูงเป็นข้อกำหนดในการขีดแบ่งชั้นคุณภาพลุ่มน้ำโดยอาศัยแผนที่ภูมิประเทศมาตราส่วน 1:50,000 มิได้ทำการสำรวจพื้นที่ในภูมิประเทศจริงว่ามีหมู่บ้าน ชุมชน ที่ทำกิน และเป็นการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำในภายหลังเป็นหมู่บ้านชุมชนที่ทำกินแล้ว และที่สำคัญมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา บังคับใช้เป็นกฎหมายให้ประชาชนได้ทราบหรือไม่ และมีการรังวัดติดป้ายปักหลักเขตในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนทราบ และปฏิบัติหรือไม่อย่างไร

นายภูมินภ์ห์ กล่าวต่อว่า วันนี้ที่ชาวม่อนแจ่มมายื่นหนังสือต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งหลังจากนี้ก็จะนำเรื่องนี้ไปดำเนินการพิจารณา ว่าสิ่งที่เรียกร้องมานั้น ถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมายหรือไม่ โดยจะให้คำตอบภายใน 30 วันนับจากวันนี้ ซึ่งจะมีการประสานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และจะช่วยแก้ไขปัญหาให้เต็มที่ตามกรอบระเบียบของกฎหมาย ซึ่งขอให้ประชาชนไว้ใจ เชื่อมั่นในการทำงานของกระทรวง

นายภูมินภ์ห์ กล่าวถึงกรณีที่ไม่ให้ชาวม่อนแจ่มเข้าไปด้านในกระทรวง โดยระบุว่า เนื่องจากด้านในห้องประชุมบรรจุคนได้เพียง 20 คน รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ จึงไม่สามารถให้เข้าไปข้างในได้

Related Posts

Send this to a friend