ENVIRONMENT

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเวที “30 ปี TEI ก้าวไปกับภาคี สู่สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “30 ปี TEI ก้าวไปกับภาคี สู่สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี TEI ในฐานะที่เป็นหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม โดยการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ทิศทาง โอกาส และบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ ทั้งในระดับเชิงนโยบายและการปฏิบัติในพื้นที่ นำไปสู่การอนุรักษ์ พัฒนาและใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

ภายในงานนำเสนอสรุปผลงานของ TEI ที่แสดงผ่านบอร์ดนิทรรศการภายใต้หัวข้อ “30 ดี 30 ปี TEI” นอกจากนี้ ในช่วงการบรรยายพิเศษเปิดมุมมอง “วิกฤตสิ่งแวดล้อม: วาระของประเทศและพันธมิตร” ได้เกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ Ms.Gita Sabharwal, United Nations Resident Coordinator, Thailand นำข้อมูลสถานการณ์วิกฤตสิ่งแวดล้อมเพื่อร่วมหาทางออกให้พ้นจากวิกฤตอันเป็นแรงขับเคลื่อนสังคมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับเชิงโครงสร้างการบริหารจัดการและการปฏิบัติงานในเชิงพื้นที่

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่าในงานได้มีการจัดพิธีมอบ “รางวัลอนุสรณ์ ดร.ธีระ พันธุมวณิช” เพื่อเป็นทุนสนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชนดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อม จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ มูลนิธิบูรณะนิเวศ จังหวัดนนทบุรี มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ และสมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน จังหวัดหนองคาย

นอกจากนี้ ภายในงานยังมอบโล่ฉลากเขียว ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้การรับรองฉลากเขียวมากกว่า 20 ปี จำนวน 8 องค์กร ประกอบด้วย

1.บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

2.บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด

3.บริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด

4.บริษัท โจตันไทย จำกัด

5.บริษัท เครโดอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

6.บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

7.บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด

8.บริษัท อั๊คโซ่ โนเบล เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับการเสวนาภายในงาน ถือเป็นการรวมตัวกันหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ที่ร่วมกันแลกเปลี่ยนประเด็นสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งมีทั้ง ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย, ปัณวรรธน์ นิลกิจศรานนท์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายวิศวกรรมโครงสร้าง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด, วราภรณ์ หิรัญวัฒน์ศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมอาวุโส ธนาคารโลก, เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ องค์กรพัฒนาเอกชนดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อม และอเล็กซ์ เรนเดลล์ ดารานักแสดงและทูตสันถวไมตรีด้านสิ่งแวดล้อมของไทย

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเจาะลึกในหลากหลายประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมจากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญมาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอันครอบคลุมทุกมิติใน 4 ห้องสัมมนาย่อย ประกอบด้วย

ห้องย่อยที่ 1 “ความท้าทายธุรกิจไทยไปสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืน” โดย TEI ร่วมกับองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) เปิดเวทียกระดับมาตรฐานขององค์กรธุรกิจไทยสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืน เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงบทบาทขององค์กรภาคธุรกิจไทยในการแกปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ตอบรับนโยบายของประเทศไทยที่มุ่งสู่ Carbon Neutrality ในปี ค.ศ. 2050 และ Net Zero GHG Emission ในปี ค.ศ.2065

ห้องย่อยที่ 2 “สานพลังสังคม จัดการฐานทรัพยากรธรรมชาติ สู่ความยั่งยืน” แลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลองค์ความรู้การจัดการฐานทรัพยากรให้กับภาคีความร่วมมือ โดยเฉพาะกรณี ‘เอลนีโญ่’ ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของคนไทย เสริมสร้างความตระหนัก การตั้งรับ และการปรับตัวให้เท่าทันวิกฤติความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและลดภัยแล้งในอนาคต

ห้องย่อยที่ 3 “ฉลากสิ่งแวดล้อมกับการส่งเสริมธุรกิจเพื่อการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน” ทางรอดที่ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ทำให้ต้องมีวิถีปฏิบัติในการซื้อสินค้าและเลือกใช้บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยสินค้าจะต้องมีฉลากสิ่งแวดล้อม ยกระดับการปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม

ห้องย่อยที่ 4 “พลัง Youth…หยุดโลกร้อน” TEI รวบรวมประเด็นการทำงานด้านภาวะโลกร้อนร่วมกับกลุ่มเยาวชน นำมาจัดกิจกรรมเวทีย่อยก่อนงานวันนี้แล้ว 2 ครั้ง ในหัวข้อ “คนพันธุ์ใหม่คิดอย่างไรกับปัญหาโลกร้อนจาก Single Use Plastic” และ “คนพันธุ์ใหม่จะอยู่อย่างไร เมื่อโลกร้อน” ซึ่งงานนี้ ถือเป็นเวทีย่อยครั้งที่ 3 ในรูปแบบ Hybrid ส่งต่อนโยบายการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงโอกาสในการขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นก้าวต่อไปของ TEI และภาคีเยาวชนกับนโยบาย Net Zero ของประเทศไทยในอนาคต

Related Posts

Send this to a friend